นครศรีธรรมราช – “สุรชัย” แกนนำแดงสยาม เปรียบ 3 เกลอ สู้แบบมวยไม่มีตำราต่อย เชื่อ 3 เกลอจะกลายเป็นจำเลยของคนเสื้อแดง กลายเป็นเสือลำบาก ส่วนการเจาะเลือดนั้น ผิดหลักการต่อสู้ มันต้องเอาเลือดของศัตรูมาไม่ใช่เอาเลือดของตัวเอง
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (17 มี.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวตอบโต้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ออกมาระบุว่า แนวทางของตนเป็นแนวทางรุนแรง ว่า ในเรื่องนี้ต้องถามว่าตนเองได้ไปเสนอถึงการใช้ความรุนแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ ย้อนดูได้เลยว่าไม่เคยเสนอในแนวนี้
มาวันนี้ต้องบอกว่า กำลังเป็นห่วง 3 เกลออย่างยิ่ง กำลังหลงทางไปไกลแล้ว ต้องบอกว่าเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ในเวลานี้ ยอมรับว่า 3 เกลอมีความสามารถในการระดมคนเข้ามาร่วม และทั้งยังได้รับการสนับสนุนในภาพกว้าง ทั้ง ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ที่สำคัญ คือ 3 เกลอขาดความรู้ความเข้าใจในการนำมวลชน ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่มียุทธศาสตร์ในการสู้
“ผมเปรียบเสมือนกับนักมวยที่ไม่ได้เรียนเชิงมวยมา ใจสู้แต่ไร้ฝีมือ สู้แบบมวยไม่มีตำราต่อยสะเปะสะปะ ผมไม่รู้ว่าครั้งนี้จะจบแบบไหนแต่ที่แน่ๆ เชื่อว่า 3 เกลอจะกลายเป็นจำเลยของคนเสื้อแดง รัฐก็จะเล่นงานถอนประกัน กลายเป็นเสือลำบาก ถ้าเป็นไปได้นั้นไม่ต้องรอให้เหตุการณ์เหมือนกับเดือนเมษายน ควรเร่งอธิบายให้กับประชาชนได้รู้ว่าแนวของการปฏิรูปนั้นไม่ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ต้องมีทฤษฎี ต้องมียุทธศาสตร์ในการสู้ อย่ามองผมเป็นศัตรู อย่ามองคนที่คิดต่างเป็นศัตรู ทั้งที่เขาต่างก็สนับสนุนที่เห็นต่างนั้นเพราะแนวทางของ 3 เกลอนั้นมันไม่สำเร็จ”
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า การเจาะเลือดของเสื้อแดงนั้น มันผิดหลักการต่อสู้ มันต้องเอาเลือดของศัตรูมาไม่ใช่เอาเลือดของตัวเอง กลับไปถามหมอเหวงดูว่าเหตุการณ์เดือนตุลานั้น ประชาชนนักศึกษาเสียเลือดเสียเนื้อล้มตายไปเท่าไหร่ รัฐบาลก็ไม่ฉลาด แกนนำก็ไม่รู้ การเอาเลือดของคนเสื้อแดงไปเทราดแล้วให้นายกเดินผ่าน เหมือนกับเอาเลือดไปล้างตีนนายก มันกลับกันถ้าจะสู้นั้นต้องเอาเลือดอำมาตย์ เลือดของนายอภิสิทธิ์มาล้างตีนคนเสื้อแดงถึงจะถูก
“วันนี้ผมเข้าใจว่านายจักรภพจะออกแถลงการณ์อีกครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์ให้กำลังใจคนเสื้อแดง และแสดงความเป็นห่วงถึง 3 เกลอ ให้เสื้อแดงอย่าท้อแท้ อย่าหวั่นไหว อย่าสับสนในการต่อสู้ ขณะเดียวกัน นายจักรภพ จะเสนอแนวทางต่อสู้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เราจึงเสนอให้เปลี่ยนการนำ ไม่ใช่เปลี่ยนแกนนำเป็นแกนนำชุดเก่าก็ได้ แต่ควรที่จะเปลี่ยนแนวทางยิ่งดึงดันต่อไปจะได้รับการปฏิเสธจากคนเสื้อแดงเอง” นายสุรชัย กล่าวในที่สุด
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (17 มี.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวตอบโต้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ออกมาระบุว่า แนวทางของตนเป็นแนวทางรุนแรง ว่า ในเรื่องนี้ต้องถามว่าตนเองได้ไปเสนอถึงการใช้ความรุนแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ ย้อนดูได้เลยว่าไม่เคยเสนอในแนวนี้
มาวันนี้ต้องบอกว่า กำลังเป็นห่วง 3 เกลออย่างยิ่ง กำลังหลงทางไปไกลแล้ว ต้องบอกว่าเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ในเวลานี้ ยอมรับว่า 3 เกลอมีความสามารถในการระดมคนเข้ามาร่วม และทั้งยังได้รับการสนับสนุนในภาพกว้าง ทั้ง ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ที่สำคัญ คือ 3 เกลอขาดความรู้ความเข้าใจในการนำมวลชน ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่มียุทธศาสตร์ในการสู้
“ผมเปรียบเสมือนกับนักมวยที่ไม่ได้เรียนเชิงมวยมา ใจสู้แต่ไร้ฝีมือ สู้แบบมวยไม่มีตำราต่อยสะเปะสะปะ ผมไม่รู้ว่าครั้งนี้จะจบแบบไหนแต่ที่แน่ๆ เชื่อว่า 3 เกลอจะกลายเป็นจำเลยของคนเสื้อแดง รัฐก็จะเล่นงานถอนประกัน กลายเป็นเสือลำบาก ถ้าเป็นไปได้นั้นไม่ต้องรอให้เหตุการณ์เหมือนกับเดือนเมษายน ควรเร่งอธิบายให้กับประชาชนได้รู้ว่าแนวของการปฏิรูปนั้นไม่ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ต้องมีทฤษฎี ต้องมียุทธศาสตร์ในการสู้ อย่ามองผมเป็นศัตรู อย่ามองคนที่คิดต่างเป็นศัตรู ทั้งที่เขาต่างก็สนับสนุนที่เห็นต่างนั้นเพราะแนวทางของ 3 เกลอนั้นมันไม่สำเร็จ”
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า การเจาะเลือดของเสื้อแดงนั้น มันผิดหลักการต่อสู้ มันต้องเอาเลือดของศัตรูมาไม่ใช่เอาเลือดของตัวเอง กลับไปถามหมอเหวงดูว่าเหตุการณ์เดือนตุลานั้น ประชาชนนักศึกษาเสียเลือดเสียเนื้อล้มตายไปเท่าไหร่ รัฐบาลก็ไม่ฉลาด แกนนำก็ไม่รู้ การเอาเลือดของคนเสื้อแดงไปเทราดแล้วให้นายกเดินผ่าน เหมือนกับเอาเลือดไปล้างตีนนายก มันกลับกันถ้าจะสู้นั้นต้องเอาเลือดอำมาตย์ เลือดของนายอภิสิทธิ์มาล้างตีนคนเสื้อแดงถึงจะถูก
“วันนี้ผมเข้าใจว่านายจักรภพจะออกแถลงการณ์อีกครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์ให้กำลังใจคนเสื้อแดง และแสดงความเป็นห่วงถึง 3 เกลอ ให้เสื้อแดงอย่าท้อแท้ อย่าหวั่นไหว อย่าสับสนในการต่อสู้ ขณะเดียวกัน นายจักรภพ จะเสนอแนวทางต่อสู้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เราจึงเสนอให้เปลี่ยนการนำ ไม่ใช่เปลี่ยนแกนนำเป็นแกนนำชุดเก่าก็ได้ แต่ควรที่จะเปลี่ยนแนวทางยิ่งดึงดันต่อไปจะได้รับการปฏิเสธจากคนเสื้อแดงเอง” นายสุรชัย กล่าวในที่สุด