นครศรีธรรมราช - “แดงสยาม” ม้วนเสื่อกลับบ้านรับม็อบแดงฝ่อแล้วลั่นผ่านบทพิสูจน์ปฏิรูปไม่ได้ผล ต้องยึดแนวปฏิวัติเท่านั้น-แนะสามเกลอปิดเวทียุติบอกจบแล้ว เผยเตรียมชง “จักรภพ” ออกแถลงการณ์แดงสยาม ชวนมวลชนร่วมปฏิวัติชวนทักษิณเปลี่ยนแนวสู้
วันนี้ (16 มี.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่ม “แดงสยาม” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันนี้ว่า มาถึงเวลานี้ต้องยอมรับว่ากลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมนั้นได้ทยอยกลับไปแล้วกว่าครึ่ง เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ เวลานี้รัฐบาลได้ปล่อยให้ค่อยๆ หมดแรงแล้วฝ่อไปเอง ซึ่งวันนี้กำลังถึงจุดนั้นแล้วอีก 1-2 วันทุกอย่างคงจบแล้ว ในส่วนของตนนั้นกำลังเตรียมเดินทางกลับนครศรีธรรมราช
“การชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดแล้วว่า แนวทางที่ 3 เกลอทำมานั้นผิดทั้งหมด สิ่งที่เขาทำคือแนวทางของการปฏิรูป ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้ววันนี้ คือไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นแดงสยามกำลังรออยู่แล้ว เราจะนำแนวทางของการปฏิวัติมาใช้นำมวลชนเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่มวลชนต้องการอย่างแท้จริง ส่วนสามเกลอนั้นจบแล้ว และอาการหนักด้วย หลังจากนี้รัฐบาลจะเล่นงานหนัก ทั้งยังหมดสภาพการนำแล้วกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งคำถามว่าแล้วจะอย่างไรต่อไป ดังนั้น สามเกลอไม่ควรดิ้นรนอีกต่อไป”
นายสุรชัยกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตนได้ประสานกับนายจักรภพ เพ็ญแข ให้ออกแถลงการณ์ เพื่อให้กำลังใจประชาชนเสื้อแดง และแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ถูกต้อง สามเกลอนั้นทำไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ส่วนตัวนั้นไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องของนายจักรภพที่จะเป็นคนพูดคุยเองเข้าใจว่าเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ คงเห็นและเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ดีกว่าแนวทางของสามเกลอคือการปฏิวัติเท่านั้น แต่หลังจากนี้ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สรุปเชื่อได้เลยว่าจบหมดเสื้อแดงทุกส่วนจบหมด เพราะหาคำอธิบายไม่ได้สู้เพื่ออะไรเป็นผมเวลานี้ผมจะบอกสามเกลอว่าให้เร่งหาทางยุติการชุมนุมโดยเร็วที่สุด หากทอดเวลาต่อไปนั้นมวลชนหมด
“การเจาะเลือดก็เช่นเดียวกัน แกนนำบางคนได้บังคับเอาว่าจะต้องเจาะเลือด ผมไม่รู้ว่าจะถึง 1 หมื่นคนหรือไม่ ส่วนผมนั้นไม่เจาะอย่างแน่นอนกลัวอันตรายเจาะเลือดกันข้างถนน ติดเชื้อนั้นเชื้อนี่แล้วยุ่ง แนวนี้เป็นแนวบังคับจากแกนนำให้มาร่วมกันเจาะเลือด รู้หรือไม่ว่าเมื่อมีการเจาะเลือดกันนั้นคนต่างก็กลับกันมาก เอาเลือดไปเทแล้วอย่างไรต่อมันหาจุดจบไม่ได้” นายสุรชัยกล่าว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้เดินทางกลับถึงบ้านแล้ววานนี้ (15 มี.ค) เปิดเผยว่า ตามสัญญานั้นคือการเหมาจ่ายเบี้ยเลี้ยง 2 พันบาท โดยให้อยู่ในกรุงเทพฯ จนถึงเย็นวันอาทิตย์ตนจึงกลับบ้าน และทราบว่าบางคนได้ตีตั๋วรถกลับบ้านเองมาล่วงหน้าแล้วเนื่องจากรับไม่ได้กับเหตุการณ์หลายๆ อย่าง
วันนี้ (16 มี.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่ม “แดงสยาม” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันนี้ว่า มาถึงเวลานี้ต้องยอมรับว่ากลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมนั้นได้ทยอยกลับไปแล้วกว่าครึ่ง เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ เวลานี้รัฐบาลได้ปล่อยให้ค่อยๆ หมดแรงแล้วฝ่อไปเอง ซึ่งวันนี้กำลังถึงจุดนั้นแล้วอีก 1-2 วันทุกอย่างคงจบแล้ว ในส่วนของตนนั้นกำลังเตรียมเดินทางกลับนครศรีธรรมราช
“การชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดแล้วว่า แนวทางที่ 3 เกลอทำมานั้นผิดทั้งหมด สิ่งที่เขาทำคือแนวทางของการปฏิรูป ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้ววันนี้ คือไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นแดงสยามกำลังรออยู่แล้ว เราจะนำแนวทางของการปฏิวัติมาใช้นำมวลชนเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่มวลชนต้องการอย่างแท้จริง ส่วนสามเกลอนั้นจบแล้ว และอาการหนักด้วย หลังจากนี้รัฐบาลจะเล่นงานหนัก ทั้งยังหมดสภาพการนำแล้วกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งคำถามว่าแล้วจะอย่างไรต่อไป ดังนั้น สามเกลอไม่ควรดิ้นรนอีกต่อไป”
นายสุรชัยกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตนได้ประสานกับนายจักรภพ เพ็ญแข ให้ออกแถลงการณ์ เพื่อให้กำลังใจประชาชนเสื้อแดง และแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ถูกต้อง สามเกลอนั้นทำไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ส่วนตัวนั้นไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องของนายจักรภพที่จะเป็นคนพูดคุยเองเข้าใจว่าเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ คงเห็นและเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ดีกว่าแนวทางของสามเกลอคือการปฏิวัติเท่านั้น แต่หลังจากนี้ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สรุปเชื่อได้เลยว่าจบหมดเสื้อแดงทุกส่วนจบหมด เพราะหาคำอธิบายไม่ได้สู้เพื่ออะไรเป็นผมเวลานี้ผมจะบอกสามเกลอว่าให้เร่งหาทางยุติการชุมนุมโดยเร็วที่สุด หากทอดเวลาต่อไปนั้นมวลชนหมด
“การเจาะเลือดก็เช่นเดียวกัน แกนนำบางคนได้บังคับเอาว่าจะต้องเจาะเลือด ผมไม่รู้ว่าจะถึง 1 หมื่นคนหรือไม่ ส่วนผมนั้นไม่เจาะอย่างแน่นอนกลัวอันตรายเจาะเลือดกันข้างถนน ติดเชื้อนั้นเชื้อนี่แล้วยุ่ง แนวนี้เป็นแนวบังคับจากแกนนำให้มาร่วมกันเจาะเลือด รู้หรือไม่ว่าเมื่อมีการเจาะเลือดกันนั้นคนต่างก็กลับกันมาก เอาเลือดไปเทแล้วอย่างไรต่อมันหาจุดจบไม่ได้” นายสุรชัยกล่าว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้เดินทางกลับถึงบ้านแล้ววานนี้ (15 มี.ค) เปิดเผยว่า ตามสัญญานั้นคือการเหมาจ่ายเบี้ยเลี้ยง 2 พันบาท โดยให้อยู่ในกรุงเทพฯ จนถึงเย็นวันอาทิตย์ตนจึงกลับบ้าน และทราบว่าบางคนได้ตีตั๋วรถกลับบ้านเองมาล่วงหน้าแล้วเนื่องจากรับไม่ได้กับเหตุการณ์หลายๆ อย่าง