นครศรีธรรมราช – ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ขอความร่วมมือจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่า 500 คัน ร่วมเป็นตาสับปะรดแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดง เฝ้าระวังสถานที่ราชการ-แกนนำหางแดงนครศรีฯ จ่ายไม่อั้น ระดมคนชุมนุม กทม.คาด 300 คน รถยนต์ 20 คัน สมทบ ตรัง สตูล พัทลุงร่วมเดินทางวันนี้
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ความเคลื่อนไหวในการเตรียมรับมือกับการชุมนุมโดยเฉพาะในส่วนของการเฝ้าระวังสถานที่ราชการในต่างจังหวัด ล่าสุด พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมจักรยานยนต์รับจ้างกว่า 500 คัน เพื่อความความร่วมมือในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสการรวมตัวของกลุ่มคนเพื่อเคลื่อนไหวในทางการเมือง หรือก่อความไม่สงบเรียบร้อย รวมทั้งช่วยเป็นหูเป็นตาตรวจสอบและแจ้งการก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ที่มีแนวโน้มออกอาลวะหวาดมากขึ้นในระยะนี้
พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ตำรวจทั่วประเทศสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่จะร่วมเคลื่อนไหวในทางการเมืองโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งโดยกำลังตำรวจที่มีอยู่ในขณะนี้คงยากที่จะตรวจสอบ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทั่วถึง จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างทุกคนให้ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวและแจ้งข่าวหรือเบาะแสให้ตำรวจทราบ ทราบโครงการสายตรวจ “ตาสับปะรด” นอกจากนี้ ยังถือโอกาสขอความร่วมมือให้ผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างช่วยตรวจสอบดูแลในเรื่องแก๊งคนร้ายที่ออกอาละวาดก่อคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ถี่มากขึ้นในช่วงนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่นครศรีธรรมราช มีรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีการเตรียมการเดินทางเป็น 2 สาย โดยสายแรกนั้นภายใต้เครือข่ายของ นายพีระพล นาคแก้ว ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งในส่วนนี้มีการเตรียมงบประมาณในการเดินทางไว้เบื้องต้นเป็นจำนวนราว 500,000 บาท ซึ่งใช้ในค่าใช้จ่ายสำหรับรถตู้ รถยนต์กระบะราว 20 คัน ซึ่งแผนเดิมนั้นได้เตรียมที่จะเดินทางออกจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.สิชล
แต่ล่าสุด ได้มีการกระจายกันเดินทางโดยการปรับแผนให้ผู้ที่เข้าร่วมบางส่วนไปรอขึ้นรถที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี แทน ส่วน นายพีระพล นั้น แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า อาจจะไม่ร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากเป็นห่วงกิจการรีสอร์ตในพื้นที่เขาพลายดำ ที่มีกิจการขนาดใหญ่และที่ดินแปลงงามริมทะเลอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีการกว้านซื้อไว้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในช่วงที่ นายณัฐวุฒิ กลายเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มเสื้อแดง และเกรงว่าอาจจะมีกลุ่มมวลชนฝ่ายตรงข้ารมเข้าไปตลบหลังในพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม พบข้อมูลว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมรายหนึ่งซึ่งเป็นเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงกับ อ.สิชล ปฏิเสธที่จะเดินทางไปด้วย เนื่องจากผักที่ปลูกไว้รวม 7 แปลงกำลังจะต้องตัดจำหน่าย แต่แกนนำรายหนึ่งบอกว่า ราคาเท่าไหร่จะซื้อทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องตัดไปแต่ให้ปล่อยทิ้งไว้ในแปลง แล้วรับเงินไปเลยส่วนตัวคนนั้นให้เดินทางไป กทม.ร่วมชุมนุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมีการพร้อมจ่ายกับผู้ที่เข้าร่วมอย่างไม่อั้น
ส่วนอีกสายนั้นผู้ที่รับผิดชอบ คือ นายอุดมเกียรติ อภินันทิกุลปานมี อดีตผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักไทย ได้รวมจำนวนผู้ที่เข้าร่วมในพื้นที่ อ.ทุ่งสง ช่วงสายของวันนี้ได้มีการประชุมหารือกันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ถาวรทุ่งสง ซึ่งได้มีการจี้บัตรจำหน่าย โดยอ้างว่าต้องใช้เป็นค่าเดินทางรวม 150 ใบ เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท โดยในสายนี้จะมีการรวมตัวกันของ 3 กลุ่ม คือ จาก จ.ตรัง จ.สตูล และ จ.พัทลุง โดยจะเดินทางไปรวมตัวกันที่ร้านอาหารครัวคุณสาหร่ายใน จ.ชุมพร จากนั้นจะเดินทางไปรวมกันแถวธนบุรี-ปากท่อ เพื่อรอคำส่งในการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯชั้นในอีกครั้ง
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ความเคลื่อนไหวในการเตรียมรับมือกับการชุมนุมโดยเฉพาะในส่วนของการเฝ้าระวังสถานที่ราชการในต่างจังหวัด ล่าสุด พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมจักรยานยนต์รับจ้างกว่า 500 คัน เพื่อความความร่วมมือในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสการรวมตัวของกลุ่มคนเพื่อเคลื่อนไหวในทางการเมือง หรือก่อความไม่สงบเรียบร้อย รวมทั้งช่วยเป็นหูเป็นตาตรวจสอบและแจ้งการก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ที่มีแนวโน้มออกอาลวะหวาดมากขึ้นในระยะนี้
พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ตำรวจทั่วประเทศสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่จะร่วมเคลื่อนไหวในทางการเมืองโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งโดยกำลังตำรวจที่มีอยู่ในขณะนี้คงยากที่จะตรวจสอบ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทั่วถึง จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างทุกคนให้ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวและแจ้งข่าวหรือเบาะแสให้ตำรวจทราบ ทราบโครงการสายตรวจ “ตาสับปะรด” นอกจากนี้ ยังถือโอกาสขอความร่วมมือให้ผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างช่วยตรวจสอบดูแลในเรื่องแก๊งคนร้ายที่ออกอาละวาดก่อคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ถี่มากขึ้นในช่วงนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่นครศรีธรรมราช มีรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีการเตรียมการเดินทางเป็น 2 สาย โดยสายแรกนั้นภายใต้เครือข่ายของ นายพีระพล นาคแก้ว ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งในส่วนนี้มีการเตรียมงบประมาณในการเดินทางไว้เบื้องต้นเป็นจำนวนราว 500,000 บาท ซึ่งใช้ในค่าใช้จ่ายสำหรับรถตู้ รถยนต์กระบะราว 20 คัน ซึ่งแผนเดิมนั้นได้เตรียมที่จะเดินทางออกจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.สิชล
แต่ล่าสุด ได้มีการกระจายกันเดินทางโดยการปรับแผนให้ผู้ที่เข้าร่วมบางส่วนไปรอขึ้นรถที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี แทน ส่วน นายพีระพล นั้น แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า อาจจะไม่ร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากเป็นห่วงกิจการรีสอร์ตในพื้นที่เขาพลายดำ ที่มีกิจการขนาดใหญ่และที่ดินแปลงงามริมทะเลอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีการกว้านซื้อไว้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในช่วงที่ นายณัฐวุฒิ กลายเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มเสื้อแดง และเกรงว่าอาจจะมีกลุ่มมวลชนฝ่ายตรงข้ารมเข้าไปตลบหลังในพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม พบข้อมูลว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมรายหนึ่งซึ่งเป็นเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงกับ อ.สิชล ปฏิเสธที่จะเดินทางไปด้วย เนื่องจากผักที่ปลูกไว้รวม 7 แปลงกำลังจะต้องตัดจำหน่าย แต่แกนนำรายหนึ่งบอกว่า ราคาเท่าไหร่จะซื้อทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องตัดไปแต่ให้ปล่อยทิ้งไว้ในแปลง แล้วรับเงินไปเลยส่วนตัวคนนั้นให้เดินทางไป กทม.ร่วมชุมนุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมีการพร้อมจ่ายกับผู้ที่เข้าร่วมอย่างไม่อั้น
ส่วนอีกสายนั้นผู้ที่รับผิดชอบ คือ นายอุดมเกียรติ อภินันทิกุลปานมี อดีตผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักไทย ได้รวมจำนวนผู้ที่เข้าร่วมในพื้นที่ อ.ทุ่งสง ช่วงสายของวันนี้ได้มีการประชุมหารือกันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ถาวรทุ่งสง ซึ่งได้มีการจี้บัตรจำหน่าย โดยอ้างว่าต้องใช้เป็นค่าเดินทางรวม 150 ใบ เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท โดยในสายนี้จะมีการรวมตัวกันของ 3 กลุ่ม คือ จาก จ.ตรัง จ.สตูล และ จ.พัทลุง โดยจะเดินทางไปรวมตัวกันที่ร้านอาหารครัวคุณสาหร่ายใน จ.ชุมพร จากนั้นจะเดินทางไปรวมกันแถวธนบุรี-ปากท่อ เพื่อรอคำส่งในการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯชั้นในอีกครั้ง