กระบี่ - คนร้ายลักลอบจุดไฟเผาอีกป่าต้นน้ำท่าปอมคลองสองน้ำ เสียหายอีกประมาณ 50 ไร่ เย้ยคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ยึดคืนพื้นที่ถูกนายทุนบุกรุกแผ้วถางกลับเป็นของรัฐ พร้อมล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดกระบี่ ว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 มีนาคม นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทับปริก ท้องที่หมู่ 1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ อย่างรุนแรง โดยเกิดไฟลุกไหม้ลามเป็นบริเวณกว้าง พร้อมกันหลายจุด และโหมกระหน่ำไหม้พื้นที่ป่าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นป่าไผ่และป่าไม้ใหญ่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานขอรถดับเพลิง อบต.เขาคราม และรถน้ำของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เข้าระงับเหตุ
นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ สำหรับจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้อยู่ใกล้กับจุดเดิมที่เคยเกิดไฟไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นพื้นที่ป่าถูกไฟเผาพลาญเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ไร่
สาเหตุเกิดจากมีนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ้วถาง และเผาทำลายป่า เพื่อปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน ส่วนครั้งนี้ป่าเสียหายประมาณ 50 ไร่ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยประสานป้องกัน และปราบปรามการทำลายป่า (นปม.) ไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่ก็ยังมีการปล่อยให้มีการบุกรุกได้ และเผาซ้ำซาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงสำรวจพื้นที่พบว่า นอกจากมีการบุกรุกป่าแล้ว ก็ยังมีการลักลอบตัดไม้แปรรูปด้วย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับสั่งให้มีการยึดพื้นที่คืนเป็นของรัฐ โดยให้เวลาคณะทำงาน 30 วัน โดยมีทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่เป็นหัวหน้าชุด แต่เวลาผ่านมาเพียง 2 วัน ก็เกิดมีการลักลอบเผาป่าอีก ซึ่งเหมือนกับเป็นการท้าทายอำนาจของผู้ว่าฯ
“ขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างแล้วหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพราะเชื่อว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปพัวพันอย่างแน่นอน และให้รีบยึดคืนพื้นที่ป่ามาเป็นของรัฐโดยเร็ว เพาะหากพื้นป่าแห่งนี้ถูกทำลายก็จะกระทบสภาพแวดล้อมของท่าปอมคลอสองน้ำด้วย เพราะผืนป่าแห่งนี้เป็นต้นน้ำของคลองท่าปอมคลองสองน้ำ”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดกระบี่ ว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 มีนาคม นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทับปริก ท้องที่หมู่ 1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ อย่างรุนแรง โดยเกิดไฟลุกไหม้ลามเป็นบริเวณกว้าง พร้อมกันหลายจุด และโหมกระหน่ำไหม้พื้นที่ป่าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นป่าไผ่และป่าไม้ใหญ่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานขอรถดับเพลิง อบต.เขาคราม และรถน้ำของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เข้าระงับเหตุ
นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ สำหรับจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้อยู่ใกล้กับจุดเดิมที่เคยเกิดไฟไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นพื้นที่ป่าถูกไฟเผาพลาญเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ไร่
สาเหตุเกิดจากมีนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ้วถาง และเผาทำลายป่า เพื่อปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน ส่วนครั้งนี้ป่าเสียหายประมาณ 50 ไร่ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยประสานป้องกัน และปราบปรามการทำลายป่า (นปม.) ไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่ก็ยังมีการปล่อยให้มีการบุกรุกได้ และเผาซ้ำซาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงสำรวจพื้นที่พบว่า นอกจากมีการบุกรุกป่าแล้ว ก็ยังมีการลักลอบตัดไม้แปรรูปด้วย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับสั่งให้มีการยึดพื้นที่คืนเป็นของรัฐ โดยให้เวลาคณะทำงาน 30 วัน โดยมีทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่เป็นหัวหน้าชุด แต่เวลาผ่านมาเพียง 2 วัน ก็เกิดมีการลักลอบเผาป่าอีก ซึ่งเหมือนกับเป็นการท้าทายอำนาจของผู้ว่าฯ
“ขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างแล้วหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพราะเชื่อว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปพัวพันอย่างแน่นอน และให้รีบยึดคืนพื้นที่ป่ามาเป็นของรัฐโดยเร็ว เพาะหากพื้นป่าแห่งนี้ถูกทำลายก็จะกระทบสภาพแวดล้อมของท่าปอมคลอสองน้ำด้วย เพราะผืนป่าแห่งนี้เป็นต้นน้ำของคลองท่าปอมคลองสองน้ำ”