กระบี่ - อบต.หนองทะเล แจง ถูกป่าไม้แจ้งความจับสร้างถนนบ้านทับแขก-คลองทราย ยันเพื่อผลประโยชน์ชาวบ้าน ไม่ใช่เอื้อนายทุน
นายสุขกาย จันทร์อ่อน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ เจ้าหน้าที่ หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ จังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบ และแจ้งความจับ อบต.หนองทะเล ในข้อหาบุกรุกป่า ทำถนน พื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านทับแขก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ โดยไม่ได้รับอนุญาต จนทำให้การดำเนินการก่อสร้างถนนต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ทั้งที่ก่อนการดำเนินการทาง อบต.ได้ดำเนินการนำเรื่องการสร้างทางเข้า สภา อบต. ซึ่งทาง สภา ก็เห็นชอบ ถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองทะเล กล่าวอีกว่า สำหรับที่ดินที่ อบต.หนองทะเล เข้าไปบุกเบิกดำเนินการสร้างถนน เป็นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ไม่ได้สร้างในเขตป่าแต่อย่างได ส่วนที่ทางป่าไม้ออกมากล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่ทราบในเมื่อเจ้าของที่ดินมอบที่ดินให้ อบต.สร้างถนนผ่าน อบต.ก็ทำไปตามขั้นตอน และส่วนหนึ่งก็เป็นความต้องการของชาวบ้านด้วย เพราะปัจจุบันชาวบ้านไม่อยากทนทุกข์ต้องใช้ถนนร่วมกับรถบรรทุกแร่ยิบซั่ม ที่วิ่งผ่านเส้นทางวันละนับร้อยคัน ซึ่งก่อนที่ป่าไม้จะมาแจ้งความจับ อบต.ก็ควรจะไปตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ก่อนชอบหรือไม่
สำหรับโครงการสร้างถนนพื้นที่ดังกล่าวเป็นถนนบุกเบิกใหม่ ระหว่างบ้านทับแขก-คลองทราย กว้าง 5 เมตร ยาว ประมาณ 2,000 เมตร โดยมีเจ้าของที่ดินอุทิศที่ดินให้ อบต.ตัดถนนผ่าน จำนวน 51 แปลง ซึ่งทุกแปลงก็มีเอกสารสิทธิ์ และที่สำคัญก่อนหน้าที่จะสร้างก็ได้มีการประสานงานกับทางป่าไม้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อดำเนินการไปแล้วก็ไม่ทราบว่าทำไม่ทางป่าไม้จึงต้องมาแจ้งความจับกันด้วย และตนก็ย้ำว่าการดำเนินการสร้างถนนไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน แต่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตำบล และชาวบ้านหนองทะเล รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่ทาง อบต.หนองทะเล มีการตัดถนนผ่านนั้น เมื่อเดือนเมษายน 2552 ที่ผ่านมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองทะเล ว่าได้มีนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำการบุกรุก และมีการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินแล้ว รวม จำนวน 51 แปลง เนื้อที่ ประมาณ 200 ไร่ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับแขก-หางนาค แต่จนถึงขณะนี้เรื่องก็ยังอยู่ที่ ดีเอสไอ
นายสุขกาย จันทร์อ่อน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ เจ้าหน้าที่ หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ จังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบ และแจ้งความจับ อบต.หนองทะเล ในข้อหาบุกรุกป่า ทำถนน พื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านทับแขก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ โดยไม่ได้รับอนุญาต จนทำให้การดำเนินการก่อสร้างถนนต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ทั้งที่ก่อนการดำเนินการทาง อบต.ได้ดำเนินการนำเรื่องการสร้างทางเข้า สภา อบต. ซึ่งทาง สภา ก็เห็นชอบ ถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองทะเล กล่าวอีกว่า สำหรับที่ดินที่ อบต.หนองทะเล เข้าไปบุกเบิกดำเนินการสร้างถนน เป็นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ไม่ได้สร้างในเขตป่าแต่อย่างได ส่วนที่ทางป่าไม้ออกมากล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่ทราบในเมื่อเจ้าของที่ดินมอบที่ดินให้ อบต.สร้างถนนผ่าน อบต.ก็ทำไปตามขั้นตอน และส่วนหนึ่งก็เป็นความต้องการของชาวบ้านด้วย เพราะปัจจุบันชาวบ้านไม่อยากทนทุกข์ต้องใช้ถนนร่วมกับรถบรรทุกแร่ยิบซั่ม ที่วิ่งผ่านเส้นทางวันละนับร้อยคัน ซึ่งก่อนที่ป่าไม้จะมาแจ้งความจับ อบต.ก็ควรจะไปตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ก่อนชอบหรือไม่
สำหรับโครงการสร้างถนนพื้นที่ดังกล่าวเป็นถนนบุกเบิกใหม่ ระหว่างบ้านทับแขก-คลองทราย กว้าง 5 เมตร ยาว ประมาณ 2,000 เมตร โดยมีเจ้าของที่ดินอุทิศที่ดินให้ อบต.ตัดถนนผ่าน จำนวน 51 แปลง ซึ่งทุกแปลงก็มีเอกสารสิทธิ์ และที่สำคัญก่อนหน้าที่จะสร้างก็ได้มีการประสานงานกับทางป่าไม้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อดำเนินการไปแล้วก็ไม่ทราบว่าทำไม่ทางป่าไม้จึงต้องมาแจ้งความจับกันด้วย และตนก็ย้ำว่าการดำเนินการสร้างถนนไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน แต่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตำบล และชาวบ้านหนองทะเล รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่ทาง อบต.หนองทะเล มีการตัดถนนผ่านนั้น เมื่อเดือนเมษายน 2552 ที่ผ่านมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองทะเล ว่าได้มีนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำการบุกรุก และมีการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินแล้ว รวม จำนวน 51 แปลง เนื้อที่ ประมาณ 200 ไร่ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับแขก-หางนาค แต่จนถึงขณะนี้เรื่องก็ยังอยู่ที่ ดีเอสไอ
