ตรัง – ตำรวจตรังเริ่มออกปฏิบัติงานหลังถูกชาวบ้านใน 3 จังหวัดร้องเรียนหนักให้ปราบกลุ่มโจรเรียกค่าไถ่ชาวสวนยางพารา และผู้มีฐานะดี ตั้งทีมไล่ล่า “ขุนโมทย์” หนีหมายจับถึง 8 คดี และเป็นสมุนเก่าของโจร “ไข่หมูก” ที่เข้าไปใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ในคุกแล้ว
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปยัง สภ.ห้วยยอด เพื่อประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด พ.ต.อ.วิรัช อ่วมอารีย์ ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการติดตามจับกุมกลุ่มโจรเรียกค่าคุ้มครองที่ใช้ชื่อว่า ทีมงาน 7 พยัคฆ์แดนใต้ ซึ่งเป็นสมุนเก่าของ นายเจิม เส้งเอียด หรือ ไข่หมูก จอมโจรชื่อดัง ที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง
หลังจากที่กลุ่มโจรดังกล่าวได้เข้ามาก่อเหตุอาละวาดยิงข่มขู่และทิ้งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองชาวสวนยางพารา รวมทั้งผู้ที่มีฐานะดี ในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง จนทำให้ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
สำหรับเหยื่อเรียกค่าคุ้มครองรายล่าสุดในจังหวัดตรัง คือ นายยุวรา หมุนกลับ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ที่ 1 (ตลาดคลองมวน) ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา ซึ่งเป็นเจ้าของสวนยางพารา และเป็นพ่อค้ารับซื้อยางพาราแผ่นดิบรายใหญ่ในพื้นที่ โดยกลุ่มโจรได้ใช้อาวุธปืนสงคราม ชนิดเอ็ม 16 กราดยิงใส่บ้าน และนำเครื่องกระสุนปืนชนิดเดียวกัน ไปใส่ถุงแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อข่มขู่ พร้อมทิ้งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองไว้ จำนวน 5 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 21 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา
ขณะที่เหยื่อเรียกค่าคุ้มครองรายล่าสุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช คือ นายอำนวย ศรีรักษ์ อาจารย์ประจำโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง นั้น เป็นญาติใกล้ชิดกับ นายสมนึก ศรีรักษ์ กำนันตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยถูกเรียกค่าคุ้มครอง จำนวน 500,000 บาท รวมทั้งชาวสวนยางพารา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลน้ำตก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกจำนวน 10 ราย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเครือญาติกัน และถูกเรียกค่าคุ้มครองคนละ 300,000 บาท เหตุเกิดเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 21 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวถึงการติดตามกลุ่มโจรเรียกค่าคุ้มครองรายนี้ ว่า ทาง สภ.ห้วยยอด สภ.รัษฎา และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้จัดชุดติดตามไล่ล่าร่วมกัน โดยทำงานประสานกับชุดติดตามไล่ล่าติดตามจากอีก 2 จังหวัด คือ พัทลุง กับนครศรีธรรมราช และ 2 กองบัญชาการตำรวจภูธร คือ ภาค 8 กับภาค 9 เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่า กลุ่มโจรที่ลงมือนั้น มีอดีตสมุนเก่าของไข่หมูก คือ นายปราโมทย์ ทองจันทร์ หรือขุนโมทย์ หรือนายเอส อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 5 ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง ผู้ต้องหาอันดับ 1 ตามบัญชีดำ ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นหัวหน้า
นายปราโมทย์นั้น มีประวัติก่อคดีอุกฉกรรจ์อย่างโชกโชน และมีหมายจับแล้วทั้งหมดถึง 8 คดี ประกอบด้วย คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นของ สภ.ห้วยยอด จังหวัดตรัง จำนวน 4 คดี รวมทั้งคดีฆ่า นายจำลอง บริพันธ์ กำนันตำบลเขาขาว อำเภอห้วยยอด นอกจากนั้น ก็ยังมีคดีปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำทับ จังหวัดกระบี่ คดีร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช คดีครอบครองอาวุธปืนสงครามของ สภ.ป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง และล่าสุดคือ คดีร่วมกันปล้นทรัพย์ของ สภ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งยังไม่นับรวมคดีเรียกค่าคุ้มครองอีกหลายรายที่เกิดขึ้นในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้