ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สำนักชลประทานที่ 16 จังหวัดสงขลาสะดุ้ง ชาวบ้านนาปรังเอาจริง ตบเท้าคัดค้านโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำ หลังมีข่าวรื้อโครงการขึ้นอีกครั้ง เหตุ 400 ครัวเรือน เสียพื้นที่ทำกิน หลังบริษัทเอกชนจัดฉาก อ้างโครงการพระราชดำริฯดึงดันให้เกิดการก่อสร้าง และมีการล่ารายชื่อชาวบ้านก่อนบิดเบือนว่าเห็นด้วยกับโครงการ
วันนี้ (4 มี.ค.) ชาวบ้านนาปรัง จ.สงขลา กว่า 100 ชีวิต เข้าร้องเรียนต่อสำนักชลประทานที่ 16 หลังมีกระแสข่าวว่า จะมีการรื้อโครงการเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำ บริเวณบ้านนาปรัง ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อดำเนินการภายในปีนี้ เนื่องจากจะทำให้ชาวบ้านกว่า 400 ครัวเรือน เสียพื้นที่ในการทำกินกว่า 14,000 ไร่
นายจิระเกียรติ ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา สำนักชลประทานที่ 16 กล่าวยืนยันต่อกลุ่มชาวบ้าน ว่า ความคืบหน้าขณะนี้เป็นเพียงการลงพื้นที่สำรวจและออกแบบเท่านั้น คือ มีการทำรังวัดเพื่อดูความสูงต่ำของพื้นที่ และวัดพื้นที่ทำกินที่แท้จริงของชาวบ้าน ซึ่งหากโครงการดังกล่าวไม่ได้รับความยินยอมจากชาวบ้าน ก็จะไม่มีการเดินหน้าก่อสร้างอ่างเก็บน้ำอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจะต้องมีเหตุผลในการคัดค้าน ซึ่งสำนักชลประทานจะหาหนทางในการแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมในขั้นตอนต่อไป
นางพรเพชร เพ็ชรครั่ง ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าไม้ และคัดค้านการสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านนาปรัง ในฐานะแกนนำ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีทีมสำรวจและเจ้าหน้าที่ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานในพื้นที่มาสำรวจ และออกแบบโครงการอ่างเก็บน้ำในพื้นที่บ้านนาปรัง โดยอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลังจากได้เดินทางไปสอบถามที่สำนักราชเลขาธิการฯด้วยตัวเอง ปรากฏว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้อยู่ในโครงการพระราชดำริฯ ตนและชาวบ้านจึงมาร่วมร้องเรียนเพื่อให้ยุติโครงการดังกล่าว เพราะหากมีการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและระบบนิเวศ
สอดคล้องกับ นายสุทัศน์ หนูใหม่ ชาวนาปรัง เปิดเผยว่า หลายปีก่อนบริษัท ฟรอนเทียร์ เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแทนท์ส จำกัด ได้เข้ามาสำรวจและรวบรวมรายชื่อชาวบ้านโดยที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียด จนภายหลังทราบว่ารายชื่อที่ได้ลงไปนั้นเป็นการเซ็นยินยอมในการสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่งตนคิดว่าการกระทำเช่นนี้ เหมือนกับการอาศัยความไม่รู้ของชาวบ้านเป็นเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม หากจะมีการก่อสร้างขึ้นมาจริง ตนก็พร้อมที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อพื้นที่ทำกินของตนเองและลูกหลานในอนาคต
ด้านนางจิ้ว สหมณี ชาวนาปรัง กล่าวว่า ตนและครอบครัวมีถิ่นทำกินอยู่ที่นาปรังมานมนาน โดยมีรายได้หลักมาจากการกรีดยาง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหากมีการสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นมาจริง คนในท้องถิ่นเดือดร้อนแน่ เพราะแต่ละบ้านต่างมีอาชีพการเกษตร เช่น กรีดยาง ปลูกสะตอ ปลูกสวนทุเรียน ในขณะที่ต่างก็มีภาระส่งเสียลูกเรียน ดังนั้น เพื่อรักษาถิ่นทำกิน ตนและเพื่อนบ้านยืนยันที่จะร่วมต่อสู้ให้ถึงที่สุด