xs
xsm
sm
md
lg

อำเภอเมืองภูเก็ตประนอมหนี้นอกระบบแล้ว 300 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อำเภอเมืองภูเก็ต สามารถประนอมหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้แล้วกว่า 1,000 คน วงเงินหนี้กว่า 300 ล้านบาท

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารกาญจนาภิเษก อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิญช์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ลงทะเบียนเป็นลูกหนี้นอกระบบ ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล เพื่อรับทราบและหาแนวทางในการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เป็นเจ้าหนี้ โดยมีผู้ที่ขึ้นทะเบียนตามโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเข้าร่วมจำนวนประมาณ 1,000 คน

นายศุภชัย โพชนุกูล นายกอำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างทางอำเภอเมืองภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และธนาคารของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ธนาคารเอสเอ็มอี ธนาคารอิสลาม และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งในส่วนของอำเภอเมืองภูเก็ต มีผู้มาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตามรายชื่อที่มีในทะเบียนราษฎร ประมาณ 1,022 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 300 ล้านบาท

โดยเป็นผู้ที่มีหนี้จำนวนระหว่าง 50,000-200,000 บาท นอกจากการให้ทางลูกหนี้มาแจ้งรายชื่อของเจ้าหนี้ เพื่อทางเจ้าหน้าที่ฯจะได้เชิญตัวมาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กันแล้ว ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่ของธนาคารชี้แจงแนวทางการดำเนินการกู้ยืมเพื่อนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ และการส่งคืนเงินให้กับทางธนาคารด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิญช์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทาง สภ.เมืองภูเก็ต ก็ได้มีการกวดขันในเรื่องการกู้ยืมนอกระบบ โดยเฉพาะในรายที่มีการข่มขู่ หรือทำร้ายร่างกายลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยเป็นตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และกองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งภายหลังจากที่รัฐบาลจัดทำโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ทำให้ปัญหาการแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายกรณีของการทวงหนี้นอกระบบไม่เกิดขึ้นอีกเลย

พ.ต.อ.วันไชย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของเจ้าหนี้ ซึ่งก็จะได้เงินที่ให้กู้ยืมไปกลับคืนมา ในขณะที่ส่วนของลูกหนี้ก็สามารถที่จะใช้หนี้ได้ตามกำลังความสามารถของตัวเอง และไม่ต้องเจอกับการถูกทวงถามด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การทำร้ายร่างกาย เป็นต้น ดังนั้นหากมีการชี้แจงทำความเข้าใจให้ถึงกลุ่มเป้าหมายก็จะไม่เกิดปัญหา เพราะเจ้าหนี้ย่อมต้องการเงินคืนอยู่แล้ว

ขณะที่ นางอัมพา ก่อสุข อาชีพค้าขาย กล่าวว่า เป็นหนี้อยู่ประมาณ 200,000 บาท มีเจ้าหนี้ 3 ราย โดยจะต้องจ่ายหนี้เฉพาะดอกเบี้ยเดือนละประมาณ 30,000 บาท เนื่องจากเจ้าหนี้เป็นชาวบ้านทั่วไป จึงไม่มีปัญหาเรื่องของการทวงหนี้

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหนี้ทั้ง 3 รายแล้วก็ไม่ขัดข้อง และคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างมาก เพราะการกู้ยืมของตนนั้นนำมาใช้ในการประกอบอาชีพ แต่เนื่องจากการค้าขายในระยะที่ผ่านมาไม่สู้ดีนัก จึงทำให้มีปัญหาไม่สามารถที่จะส่งคืนดอกเบี้ย หรือเงินต้นได้

นอกจากนี้ มีเพื่อนแม่ค้าด้วยกัน ซึ่งไปกู้ยืมเงินมาและต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 60 ต่อเดือน ประกอบกับประสบปัญหาภาวะการท่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น