ชาวประมงระนองร้องถูกทหารพม่ารีดไถน้ำมันกลางทะเล

ระนอง-กลุ่มผู้ประกอบการเรือประมง จังหวัดระนอง ร้องเรียนถูกทหารพม่ารีดไถน้ำมันกลางทะเล ทั้งที่เข้าไปทำประมงถูกต้องตามกฎหมาย วอนรัฐบาลช่วยเหลือด่วน ขณะที่ นายกสมาคมประมงระนอง เผยเตรียมนัดหารือขอหยุดทำประมงในน่าน้ำพม่าเร็วๆ นี้ พร้อมล่ารายชื่อเสนอกรมประมงแจ้งกระทรวงต่างประเทศ แจ้งให้ทางการพม่าทราบ หาทางแก้ไขปัญหาต่อไป

นายทวี บุญยิ่ง นายกสมาคมประมงระนอง เปิดเผยว่า เรือประมงที่ซื้อตั๋วเข้าไปทำประมงในน่านน้ำประเทศพม่า ผ่านบริษัทที่ได้รับอนุญาตสัมปทาน จำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท สยามโจนาธาน จำกัด, บริษัท ริวจิอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แสงอรุณฟิชชิ่ง จำกัด ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากถูกทหารพม่าทั้งใน และนอกเครื่องแบบ ทำการรีดไถน้ำมันกลางทะเลเฉลี่ยลำละ 12-50 ถัง ถังละ 200 ลิตร หรือคิดเป็นเงินมูลค่าประมาณ 100,000-200,000 บาทต่อเดือน ทำให้ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น จนต้องประสบภาวะขาดทุน ซึ่งหากปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข อาจจะทำให้ชาวประมงต้องรวมตัวกันหยุดเข้าไปทำประมงในน่านน้ำประเทศพม่า

นายกสมาคมประมงระนองกล่าวต่อไปว่า เรือประมงทุกลำที่เข้าไปทำประมงในน่านน้ำพม่า ดำเนินการตามขั้นตอนตามที่กำหนดทุกประการ แต่พอเรือเดินทางเข้าเขตน่านน้ำของพม่า ตั้งแต่จังหวัดเกาะสอง ก็จะมีการเริ่มรีดไถน้ำมัน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหน่วยไหนบ้าง มีทั้งเรือรบ เรือลาดตระเวนขนาดเล็ก

เจ้าหน้าที่บางหน่วยแต่งเครื่องแบบ บางหน่วยไม่แต่งเครื่องแบบ ทำให้ไม่รู้ว่า ใครเป็นทหารจริง หรือทหารปลอม หากไม่มีน้ำมันให้ตามที่ต้องการก็จะถูกข่มขู่ กลั่นแกล้ง หรือไม่ก็จะบังคับให้ไต้ก๋งเรือ โทรศัพท์มาหาเจ้าของเรือแล้วให้โอนเงินไปให้แทนน้ำมัน

สมาคมฯ ได้ทำหนังสือเชิญไปยังบริษัททั้ง 3 แห่ง แต่มีตัวแทนมาร่วมหารือเพียง 2 บริษัท คือ บริษัท ริวจิอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท แสงอรุณฟิชชิ่ง จำกัด ซึ่งทั้ง 2 บริษัท พร้อมให้ความร่วมมือที่จะเดินไปในทิศทางเดียวกับมติของผู้ประกอบการประมง

ซึ่งเร็วๆ นี้ สมาคมประมงระนอง จะเชิญเจ้าของเรือประมงที่สมาชิกสมาคมประมงระนองมาหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกันว่า จะทำอย่างไร หากจำเป็นก็จะรวมตัวกันหยุดทำประมง แล้วล่ารายชื่อพร้อมข้อเรียกร้องส่งไปยังกรมประมง เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งให้รัฐบาลพม่าได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป

ขณะที่เจ้าของเรือประมงรายหนึ่งกล่าวว่า ทันทีที่เรือประมงเดินทางออกจากเกาะสอง ก็จะถูกทหารเรียกรีดไถน้ำมัน เรือทุกลำที่เข้าไปทำประมงอย่างถูกกฎหมายจะเตรียมน้ำมันสำรองไว้เพราะรู้ดีว่า ถ้ารอดด่านแรกไปได้ พอถึงด่านที่ 2 หรือด่านที่ 3 ก็จะถูกรีดไถอยู่ดี แต่ถ้าเที่ยวไหนรอดไปได้ เที่ยวหน้าก็จะถูกรีดไถเพิ่มเป็น 2 เท่า ซึ่งเคยมีเรือประมงไทยถูกรีดไถน้ำมันมากที่สุดถึง 50 ถัง แต่เมื่อมีการขอร้อง หรือต่อรองก็จะถูกด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายกลับมา นอกจากน้ำมันแล้วบางครั้งเรือประมงจะถูกรีดไถเครื่องโทรศัพท์และบัตรโทรศัพท์ดาวเทียม ข้าวสาร อาหารแห้ง เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในระยะหลังจะหนักขึ้น ถ้าหากถูกรีดไถน้ำมันแค่ 6-10 ถังก็พอยอมรับได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเรือประมงจากจังหวัดระนอง เข้าร่วมทำประมงในน่านน้ำประเทศพม่าที่อยู่ในสังกัด บริษัท ริวจิอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 36 ลำ บริษัท แสงอรุณฟิชชิ่ง จำกัด จำนวน 20 ลำ และ บริษัท สยามโจนาธาน จำกัด จำนวน 120 ลำ

แต่ละลำต้องจ่ายค่าสัมปทาน 9,000-13,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 300,000-400,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของเรือ นอกจากนี้ยังมีค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงลูกเรือ ค่าน้ำมันหล่อลื่นค่าอาหาร เป็นต้น มีต้นทุนประมาณ 1.3 ล้านบาทต่อเดือน