ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ปัญหาเจ็ตสกีภูเก็ตยังไม่จบผู้ประกอบการร้องเจ็ตสกีเถื่อนเกลื่อนหาดป่าตอง-บางเทา จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องจัดการ
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายธีรยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะกรรมการติดตามประเมินผลการแก้ไขปัญหาเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้ประกอบการเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อจัดระเบียบเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องมีจำนวน 219 ลำ ซึ่งปัจจุบันพบว่าเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเริ่มกลับมามีปัญหาเกิดขึ้นอีก
นายอนุสรณ์ สาเหล่ ประธานชมรมเจ็ตสกีจังหวัดภูเก็ต กล่าว่า ในการแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และเรียกร้องค่าเสียหายเกิดจริงที่เคยเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ทางผู้ประกอบการเห็นด้วยที่ใช้ระบบประกันภัยเข้ามาเป็นมาตรการในการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนเจ็ตสกีถูกต้องจำนวน 219 ลำยอมเข้าสู่ระบบ แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้ประกอบการที่ไม่ขึ้นทะเบียนและไม่ทำประกันภัยนำเจ็ตสกี หรือเจ็ตสกีเถื่อนออกมาให้บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
ในส่วนของผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องมองว่า ไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้น เพราะผู้ที่ไม่ถูกต้องยังออกมาให้บริการได้อยู่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะถ้าปล่อยไว้เชื่อว่าจะต้องมีปัญหาเรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหายเกิดขึ้นอีกแน่นอน และสิ่งที่ตามมาก็คือ ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตเสียหายแน่นอน
สำหรับปัญหาในส่วนของเจ็ตสกีที่ไม่ถูกต้องนั้นมีมากในพื้นที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ พื้นที่ชายหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ส่วนพื้นที่หาดกะตะและหาดกะรนนั้นไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้ เกิดขึ้น
นายอนุสรณ์กล่าวต่อไปว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องของจำนวนผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องกับจำนวนเจ็ตสกีที่ไม่ถูกต้อง และอยากให้เร่งดำเนินการ ในส่วนของเจ็ตสกีที่รอความชัดเจนในการจดทะเบียนเพิ่มเติม ซึ่งมีที่หาดป่าตองจำนวน 41 ลำ และที่หาดกมลา-บางเทาบางส่วน เนื่องจากในส่วนของป่าตองนั้นเจ็ตสกีทั้ง 41 ลำได้หยุดให้บริการนักท่องเที่ยวมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
นายธีรยุทธกล่าวภายหลังรับฟังปัญญาที่เกิดขึ้นใหม่ว่าเรื่องนี้จะต้องมีการบูรณาการในการแก้ไขปัญหาร่วมกันในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและรับฟังปัญหาในพื้นที่อีกครั้ง และจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้เสร็จโดยเร็วที่สุด