ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตประกาศจัดการการขั้นเด็ดขาดเจ็ตสกีที่ยังเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ใช้แรงงานต่างด้าว หลังมีนักท่องเที่ยวร้องเรียนอีก
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังมีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่ายังมีผู้ให้บริการเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตบางราย ยังเรียกรับค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเจ็ตสกีแล้วเกิดอุบัติเหตุว่า สำหรับปัญหาเจ็ทสกีเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยการเรียกรับค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวเกินความเป็นจริง ที่ผ่านมาจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยการจัดให้ผู้ประกอบการเจ็ทสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่มีเล่มทะเบียนเจ็ตสกีถูกต้องเข้าสู่ระบบประกันภัย เพื่อที่จะแก้ปัญหาการเรียกร้องค่าเสียหายเกินจริงจากนักท่องเที่ยวที่เช่าเจ็ตสกีไปแล้วประสบอุบัติเหตุ ซึ่งในครั้งนั้นมีเจ็ตสกีที่เข้าสู่ระบบการทำประกันภัยจำนวน 219 ลำ
จากการดำเนินการไประยะหนึ่งปรากฏว่า ขณะนี้เริ่มมีเสียงร้องเรียนจากทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวว่ามีผู้ประกอบการเจ็ตสกีบางรายที่ไม่ยอมแจ้งประกันภัยกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือเจ็ตสกีแต่ถือโอกาสเรียกร้องค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ รวมทั้งเรื่องของการให้แรงงานต่างด้าวมาทำหน้าที่บริการให้เช่าเจ็ตสกีแทนคนไทย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ จะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ประกอบการที่ยังฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบกับนักท่องเที่ยวอยู่ เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอย่างร้ายแรงทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการเจ็ตสกี และจังหวัดภูเก็ตรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประกาศให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการทำประกันภัยเจ็ตสกีเป็นแห่งแรกของโลกและเป็นจังหวัดที่ปลอดจากการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเจ็ตสกี
ขณะนี้จังหวัดอื่นที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเจ็ตสกีกำลังที่จะนำตัวอย่างของจังหวัดภูเก็ตไปใช้ เพื่อแก้ปัญหาต่างที่เกิดขึ้น แต่คนภูเก็ตเองขณะนี้กำลังจะทำลายภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตอีกแล้ว”
นายวิชัยกล่าวต่อไปว่า ต่อไปนี้จะกำชับให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลควบคุมอย่างใกล้ชิดมากขึ้นหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยึดเรือเจ็ตสกีด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ส่วนเรื่องของเจ็ตสกีที่ยังไม่ได้ทำประกันภัยอีกจำนวน 41 ลำที่บริเวณหาดป่าตอง จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือกันอีกครั้งว่า สามารถที่จะยอมรับจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาได้หรือไม่
ส่วนเจ็ตสกีเถื่อนที่นำออกมาให้บริการนั้นก็จะดำเนินการจับกุมเช่นกัน เพราะไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก ซึ่งที่ผ่านมาภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตก็เสียหายมามากแล้ว