สธ.เตือนอย่านำน้ำร้อนในบ่อที่กระบี่ดื่มหวั่น! กำมะถันปะปนเป็นอันตราย

กระบี่ - สาธารณสุขอำเภอเหนือคลอง สั่งปลดป้ายโฆษณาชวนเชื่อน้ำพุร้อนรักษาได้ทุกโรค ที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งใหม่ จ.กระบี่ หลังพบชาวบ้านแห่ไปอาบน้ำ เพื่อรักษาโรคกันเป็นจำนวนมาก เตือนไม่ควรเอาน้ำไปดื่ม หวั่นเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

นายสว่างพงษ์ วรินทร์เวช สาธารณสุขอำเภอเหนือคลอง พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบบริเวณบ่อน้ำพุร้อน บ้านห้วยยูงตก หมู่ 1 ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ หลังทราบว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ ต.ห้วยยูง และพื้นที่ใกล้เคียงแห่กันไปอาบน้ำ และนำน้ำไปรับประทานกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่า น้ำภายในบ่อสามารถรักษาโรคได้

พบเป็นบ่อน้ำ กว้างประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร อยู่ริมลำห้วยในสวนยางพารา บริเวณปากบ่อ มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชา มีดอกไม้ ธูปเทียน ให้ชาวบ้านปราบไหว้ และมีป้ายข้อความว่า “บ่อน้ำร้อนแห่งนี้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ อาบได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทุกสิ่ง” และมีการตั้งแก้วน้ำไว้ 1 ใบ

เพื่อรับเงินบริจาค บริเวณขอบบ่อทำเป็นพื้นไม้ มีชาวบ้านประมาณ 5-6 คน กำลังตักน้ำจากบ่อซิเมนต์ ที่ต่อท่อมาจากบ่อน้ำพุร้อน เพื่อมาอาบชำระร่างกาย บางคนตักน้ำใส่ถังพากลับไปอาบ และรับประทานที่บ้าน

นายเตชิน แซ่ฉั่ว ผู้ดูแลบ่อน้ำร้อน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้ปรึกหารือกับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งมีที่ดินติดกับบ่อน้ำพุร้อนจำนวน 2 ราย เพื่อขอทำทางเข้า และปรับสภาพพื้นที่บ่อน้ำพุร้อน ให้ชาวบ้านเข้ามาอาบน้ำ ที่ผ่านมามีชาวบ้านเข้ามาอาบกันไม่มาก จนกระทั่งเมื่อคนที่เป็นโรคปวดเมื่อย เข้ามาอาบน้ำที่บ่อดังกล่าว รู้สึกมีอาการดีขึ้น อาการปวดเมื่อยหายไป

นอกจากนั้นพบว่า มีคนที่ป่วยเป็นอัมพาท รักษาที่ไหนก็ไม่หาย ญาติจึงได้พามาอาบน้ำร้อนที่นี่ ผลปรากฏว่า สามารถขยับตัวได้ และตอนนี้ก็สามารถขับรถมาอาบน้ำเองได้แล้ว โดยส่วนตัวเชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่บ่อน้ำร้อนแห่งนี้อย่างแน่นอน

ขณะที่ นางบุญช่อ คงพัฒน์ อายุ 58 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า บ่อแห่งนี้มีมานานหลายปี แต่ตนได้มาอาบน้ำที่บ่อนี้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากชาวบ้านมีการร่ำลือกันว่า สามารถรักษาโรคได้ ซึ่งตนจะมาตักน้ำอาบเป็นประจำ เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

นายสว่างพงษ์ วรินทร์เวช สาธารณสุขอำเภอเหนือคลอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่แล้วพบว่า บ่อน้ำยังไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะมีน้ำไหลกลับลงในบ่อเวลาอาบ เบื้องต้นได้พูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มาอาบน้ำ ว่า ไม่ควรจะนำน้ำจากบ่อน้ำร้อนดังกล่าวไปดื่มกิน

เนื่องจากน้ำร้อนธรรมชาติจะมีส่วนผสมของกำมะถัน อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนการอาบเพื่อรักษาโรคนั้น ก็สามารถกระทำได้ เพราะความร้อนจากน้ำอุณหภูมิประมาณ 40-45องศา อาจทำให้เลือดลมดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคได้ทั้งหมดตามที่ได้กล่าวอ้าง

ส่วนที่มีการปักป้ายว่า สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกอย่างนั้น ได้แจ้งให้ผู้ดูแลบ่อ ปลดป้ายออกแล้ว เนื่องจากเห็นว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ เกินความเป็นจริง อาจทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดได้ นอกจากนี้ ได้ให้ผู้ที่ดูแลบ่อน้ำปรับปรุงบ่อ อย่าให้มีน้ำไหลย้อนกลับ เพราะการที่มีผู้คนมาตักน้ำอาบน้ำจำนวนมาก

ทำให้น้ำกระเด็นกลับไปยังบ่อ อาจมีเชื้อโรคปะปนเข้ามา และที่สำคัญไม่ควรที่จะนำน้ำไปดื่มกินโดยเด็ดขาด ซึ่งหลังจากนี้ จะเก็บตัวอย่างน้ำ ส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.ตรัง และรายงานไปยังนายอำเภอ และสารธารณสุขจังหวัดรับทราบต่อไป

ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายประเสริฐ คงปาน เจ้าของที่ดินติดกับบ่อน้ำร้อน กล่าว่า บ่อแห่งนี้มีมานานกว่า 30 ปีแล้ว ก่อนที่ตนจะเข้ามาปลูกสวนยางพารา เดิมทีเป็นบ่อขนาดเล็ก กว้างประมาณ 30 เซนติเมตร เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา มีชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปปรับปรุงทำทางเข้า และปูพื้นไม้บริเวณริมปากบ่อ

จนมีชาวบ้านใกล้เคียงไปอาบ และบอกกันปากต่อปากว่า รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่กันไปอาบมากขึ้น ซึ่งตนไม่สามารถห้ามได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า เป็นความเชื่อมากกว่า เพราะถ้าหายก็คงจะมีคนมาอาบตั้งแต่เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว และส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านต่างถิ่นที่อยู่ไกล ๆ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ค่อยมี เพราะเขาเห็นมานานแล้ว.