นราธิวาส - ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 พบปะผู้นำศาสนาสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันเครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ยังใช้อยู่ จนกว่าต้นสังกัดจะเปลี่ยนเครื่องมือที่ดีกว่ามาให้
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่บริเวณห้องประชุมวิทยาลัยชุมชนจังหวัดนราธิวาส นาวาโทพงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นราธิวาสที่ 33 กองทัพเรือ นราธิวาส เป็นประธานจัดการพบปะสานสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการและกลุ่มผู้นำศาสนา จาก 63 หมู่บ้าน 35 ชุมชน ในพื้นที่ 7 ตำบลของอำเภอเมืองนราธิวาส
นายหะยีอับดุลรอชัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้นำผู้นำศาสนาของแต่ละพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งมีกว่า 200 คน โดยมีการชี้แจงทำความเข้าใจถึงกรณีการใช้เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ของเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าเป็นการใช้ในการทำงานเพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งผู้นำศาสนาส่วนใหญ่เข้าใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ โดยทุกคนพร้อมที่จะหันหน้าเข้ามาแก้ปัญหาความไม่สงบร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสันติสุขโดยเร็ว
ด้าน นาวาโทพงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 กล่าวว่าการจัดการพบปะสานสัมพันธ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือ จากกลุ่มผู้นำศาสนาอย่างดี ทั้งการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงการทำงาน การปิดล้อมตรวจ และในบางครั้งที่เกิดเหตุปะทะกัน ผู้นำศาสนาก็สามารถเป็นผู้สื่อสารให้กับประชาชนได้เข้าใจเป็นอย่างดี
นาวาโทพงษ์ศักดิ์ ทองไสย กล่าวถึงกรณีการใช้เครื่องจีที 200 ด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 ยังคงใช้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งจะใช้ควบคู่กับเครื่องมือชนิดอื่นด้วยเพื่อสร้างความแม่นยำและชัดเจนในข้อมูลที่ได้ ส่วนจะเลิกใช้เมื่อใดนั้นต้องรอจนกว่าต้นสังกัดจะมีคำสั่งออกมา หรือเมื่อมีเครื่องมือตรวจใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่ามาเปลี่ยน ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย ไม่สามารถใช้มือเปล่าในการทำงานได้ จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือมาตรวจสอบด้วย
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่บริเวณห้องประชุมวิทยาลัยชุมชนจังหวัดนราธิวาส นาวาโทพงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นราธิวาสที่ 33 กองทัพเรือ นราธิวาส เป็นประธานจัดการพบปะสานสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการและกลุ่มผู้นำศาสนา จาก 63 หมู่บ้าน 35 ชุมชน ในพื้นที่ 7 ตำบลของอำเภอเมืองนราธิวาส
นายหะยีอับดุลรอชัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้นำผู้นำศาสนาของแต่ละพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งมีกว่า 200 คน โดยมีการชี้แจงทำความเข้าใจถึงกรณีการใช้เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ของเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าเป็นการใช้ในการทำงานเพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งผู้นำศาสนาส่วนใหญ่เข้าใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ โดยทุกคนพร้อมที่จะหันหน้าเข้ามาแก้ปัญหาความไม่สงบร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสันติสุขโดยเร็ว
ด้าน นาวาโทพงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 กล่าวว่าการจัดการพบปะสานสัมพันธ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือ จากกลุ่มผู้นำศาสนาอย่างดี ทั้งการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ถึงการทำงาน การปิดล้อมตรวจ และในบางครั้งที่เกิดเหตุปะทะกัน ผู้นำศาสนาก็สามารถเป็นผู้สื่อสารให้กับประชาชนได้เข้าใจเป็นอย่างดี
นาวาโทพงษ์ศักดิ์ ทองไสย กล่าวถึงกรณีการใช้เครื่องจีที 200 ด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 ยังคงใช้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งจะใช้ควบคู่กับเครื่องมือชนิดอื่นด้วยเพื่อสร้างความแม่นยำและชัดเจนในข้อมูลที่ได้ ส่วนจะเลิกใช้เมื่อใดนั้นต้องรอจนกว่าต้นสังกัดจะมีคำสั่งออกมา หรือเมื่อมีเครื่องมือตรวจใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่ามาเปลี่ยน ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย ไม่สามารถใช้มือเปล่าในการทำงานได้ จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือมาตรวจสอบด้วย
