ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถภูเก็ตระบุพื้นที่อุทยานฯต้องตรวจพิสูจน์สิทธิ์กับชาวบ้านกว่า 276 แปลง พร้อมจัดระเบียบชายหาดหลังมีการตั้งร่ม-เตียงผ้าใบให้บริการในเขตอทยาน
นายนนทวิธ จตุราบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถหาดจังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่ทั้งบนบกและในทะเลจำนวน 56,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการบุกรุก
แต่อย่างไรก็ตามพบว่าในส่วนของอุทยานแห่งชาติสิรินาถนั้นมีการบุกรุกเช่นเดียวกันกับที่อื่น แต่ก็พบว่ามีการบุกรุกเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆของจังหวัดภูเก็ตแต่จำนวนไม่มากนัก เนื่องจากมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกจำนวน 2 ราย
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่อีกประมาณ 2,814 ไร่ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ระหว่างชาวบ้านกับจำนวน 260 ราย ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าอุทยานฯประกาศทับที่ชาวบ้าน
นายนนทวิท ยังได้กล่าวถึงกรณีการจัดระเบียบชายหาดในยางซึ่งถือว่าเป็นชายหาดที่คนไทยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนิยมไปเที่ยวและพักผ่อนและถือเป็นชายหาดเพียงแห่งเดียวที่ปัจจุบันนี้คนไทยยังสามารถเข้าไปใช้บริการได้ขณะที่ชายหาดอื่นๆ อีกหลายแห่งในปัจจุบันห้ามไม่ให้มีการเข้าไปใช้บริการจากผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ว่า ปัจจุบันบริเวณชายหาดในยาง ทางอุทยานได้เข้าไปจัดระเบียบร้านค้า ซึ่งชาวบ้านได้เข้ามามาประกอบอาชีพค้าขายและมีการวางร่ม-เตียงผ้าใบบริเวณชายหาดและมีบางราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในส่วนของโรงแรมที่ขออนุญาตเข้ามาวางร่มและเตียงผ้าใบเพื่อให้แขกโรงแรมมาใช้บริการโดยอนุญาติครั้งละ 15 วัน ซึ่งพื้นที่ที่ทางโรงแรมมาใช้นั้นอยู่นอกเหนือจากพื้นที่ที่กำหนดโซนนิ่งไว้ ทางอนุทยานจึงได้ประสานแจ้งให้ผู้ขออนุญาตทราบและย้ายออกไปตั้งจุดให้บริการในจุดเดียวกับชาวบ้านกลุ่มอื่นๆที่จัดโซนนิ่งไว้
นายนนทวิธ จตุราบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถหาดจังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่ทั้งบนบกและในทะเลจำนวน 56,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการบุกรุก
แต่อย่างไรก็ตามพบว่าในส่วนของอุทยานแห่งชาติสิรินาถนั้นมีการบุกรุกเช่นเดียวกันกับที่อื่น แต่ก็พบว่ามีการบุกรุกเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆของจังหวัดภูเก็ตแต่จำนวนไม่มากนัก เนื่องจากมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกจำนวน 2 ราย
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่อีกประมาณ 2,814 ไร่ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ระหว่างชาวบ้านกับจำนวน 260 ราย ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าอุทยานฯประกาศทับที่ชาวบ้าน
นายนนทวิท ยังได้กล่าวถึงกรณีการจัดระเบียบชายหาดในยางซึ่งถือว่าเป็นชายหาดที่คนไทยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนิยมไปเที่ยวและพักผ่อนและถือเป็นชายหาดเพียงแห่งเดียวที่ปัจจุบันนี้คนไทยยังสามารถเข้าไปใช้บริการได้ขณะที่ชายหาดอื่นๆ อีกหลายแห่งในปัจจุบันห้ามไม่ให้มีการเข้าไปใช้บริการจากผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ว่า ปัจจุบันบริเวณชายหาดในยาง ทางอุทยานได้เข้าไปจัดระเบียบร้านค้า ซึ่งชาวบ้านได้เข้ามามาประกอบอาชีพค้าขายและมีการวางร่ม-เตียงผ้าใบบริเวณชายหาดและมีบางราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในส่วนของโรงแรมที่ขออนุญาตเข้ามาวางร่มและเตียงผ้าใบเพื่อให้แขกโรงแรมมาใช้บริการโดยอนุญาติครั้งละ 15 วัน ซึ่งพื้นที่ที่ทางโรงแรมมาใช้นั้นอยู่นอกเหนือจากพื้นที่ที่กำหนดโซนนิ่งไว้ ทางอนุทยานจึงได้ประสานแจ้งให้ผู้ขออนุญาตทราบและย้ายออกไปตั้งจุดให้บริการในจุดเดียวกับชาวบ้านกลุ่มอื่นๆที่จัดโซนนิ่งไว้
