ระนอง-กลุ่มชาวประมงชายฝั่งเกาะหาดทรายดำ จ.ระนอง รวมตัวเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ชี้แจง กรณีกำลังทหารบุกขึ้นทรายดำเกาะกลางคืน เพื่อแย่งชิงเรือประมงอวนรุนของกลาง คดีลักลอบทำประมงในเขตหวงห้าม 3 พันเมตร ที่ชาวบ้านยึดไว้
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้ประชุมร่วมกับ นายวิเดช ประเสริฐ ประธานกลุ่มอาสาสมัครอนุรักษ์สัตว์น้ำ จังหวัดระนอง ตัวแทนชาวประมงชายฝั่งบ้านเกาะหาดทรายดำ หมู่ 5 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง จำนวน 12 คน อัยการจังหวัด นายอำเภอเมือง เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด สารวัตรตำรวจ สภ.ราชกรูด และผู้ที่เกี่ยวข้อง
หลังจากชาวประมงชายฝั่งบ้านเกาะหาดทรายดำ ประมาณ 50 คน รวมตัวยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ให้ชี้แจงกรณีที่ทหารได้ขึ้นไปบนเกาะหาดทรายดำ เมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อแย่งชิงเรือประมงอวนรุน ซึ่งเป็นของกลางที่ใช้กระทำความผิดที่ชาวบ้านร่วมกันยึดไว้
ชาวบ้านในหมู่บ้านได้รวมตัวกันคัดค้าน จนทหารถอนกำลังกลับ พร้อมทั้งได้เรียกร้องให้มีการยึดเรืออวนรุนของกลางทุกลำที่ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ประมง ที่ได้เข้าไปกระทำความผิดในเขตหวงห้าม หรือเขตอนุรักษ์ไม่ว่ากรณีใด ๆ
นายจรูญ ยาวไท ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การที่กำลังทหารบุกขึ้นไปบนยามวิกาลถือว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกชาวบ้าน อยากทราบว่า ใครเป็นคนสั่งการ และขอเรียกร้องให้มีการสั่งริบเรือประมงอวนรุนทุกลำ ที่ลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตอนุรักษ์ และเขตหวงห้าม 3,000 เมตร เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดี
ชาวบ้านได้ต่อสู้กันมานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า ขอยืนยันว่า ถ้ายังมีเรืออวนรุนลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตอนุรักษ์อีก ชาวบ้านจะช่วยกันจับกุม และยึดเรือพร้อมอุปกรณ์ประมงไว้ และจะไม่ยอมคืนของกลางให้อย่างเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใด ๆ ขอยอมติดคุกกันทั้งหมู่บ้านเพราะต่อสู้ เพื่อความถูกต้อง และปากท้องของชาวบ้าน
ด้าน นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องว่า มีกำลังทหารขึ้นไปบนเกาะตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ได้รับการยืนยันจาก นายภิญโญ ภักดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ว่า เป็นผู้ประสานให้ทหารขึ้นไป เพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องเรือประมงอวนรุนที่ถูกชาวบ้านยึดไว้เนื่องจากนายภิญโญ เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลของกลาง ซึ่งอาจมีการผิดพลาดกันเรื่องประสานงาน ต่อไปในพื้นที่ต้องมีการพูดคุยกันให้มากขึ้น
ส่วนที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ริบเรือของกลางทุกครั้งนั้น ต้องดูข้อเท็จจริง ตัวบทกฎหมาย และหลักฐานต่าง ๆ ประกอบกัน และที่สำคัญเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ต้องเป็นไปตามคำสั่งศาลจะละเมิดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ต่อไปจะให้ตำรวจมีความรัดกุมในการทำสำนวนคดีให้มากขึ้น พร้อมทั้งให้ประมงจังหวัดและอำเภอเมืองไปชี้แจง ทำความเข้าใจกับประมงอวนรุนไม่ให้เข้าไปทำประมงในเขตหวงห้ามอีก และจัดหางบประมาณเพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพต่อไป