xs
xsm
sm
md
lg

เทศบาลแหลมงอบเร่งขุดกระดูกวาฬ 1,000 ปีหวั่นชาวบ้านลอบขุดไปขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด - เทศบาลตำบลแหลมงอบ จ.ตราด เร่งขุดซากกระดูกปลาวาฬอายุ 1,000 ปีต่อ หวั่นชาวบ้านลักลอบนำกระดูกไปขาย

ภายหลังจากเทศบาลตำบลแหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ได้นำเจ้าหน้าที่ขุดซากโครงกระดูกปลาวาฬที่มีอายุประมาณ 1,000 กว่าปีที่บริเวณหาดทรายดำ หมู่ 2 บ้านคลองปอ และนำมาเก็บไว้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแหลมงอบ ในวันที่ 22 เม.ย.52 นายสมชาย สามัญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแหลมงอบ ได้นำเจ้าหน้าที่ไปขุดซากโครงกระดูกปลาวาฬเป็นวันที่ 2 แต่ในพื้นที่ชายฝั่งที่ซากโครงกระดูกปลาวาฬน้ำทะเล ทำให้การขุดเป็นไปด้วยความยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถขุดโครงกระดูกปลาวาฬได้จำนวน 6 ชิ้น เป็นชิ้นกระดูกซี่โครงมีขนาดประมาณ 40-80 ซม. ซึ่งจะได้นำขึ้นมาไว้เพื่อประกอบขึ้นเป็นโครงรูปปลาวาฬในภายหลัง

นายสมชาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ขุดขึ้นมาแล้ว 15 ชิ้น โดยได้ชิ้นของกระดูกขากรรไกรกรามยาวกว่า 2.8 ม. พร้อมีข้อกระดูกสันหลังอีกจำนวน 13 ข้อ และวันนี้ขุดซากโครงกระดูกส่วนล่างและกระดูกสันหลังที่มีอยู่อีก 25 ชิ้น ซึ่งมีอยู่แล้ว 15 ชิ้น โดยเทศบาลจะได้เก็บไว้เพื่อนำมาทำความสะอาด และเชิญนักวิชาการมาต่อเป็นโครงร่างของปลาวาฬภายหลัง ทั้งนี้ ซากโครงกระดูกที่พบยังมีไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีชาวบ้านเก็บไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งทางเทศบาลจะไปขอคืนเพื่อมาทำการเก็บรักษาต่อไป

ขณะที่นายสมชาย มั่นอนันต์ทรัพย์ หัวหน้าศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จ.ระยอง กล่าวว่า ซากโครงกระดูกปลาวาฬชนิดนี้ เป็นปลาวาฬกระกูลบารีมที่ไม่มีฟัน เป็นชนิดวาฬบลูด้าที่พบอยู่ในอ่าวไทย ซึ่งจากซากโครงกระดูกจะพบว่าน่าจะมีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป ความยาวน่าจะเกินกว่า 15 เมตร นับเป็นปลาวาฬที่มีขนาดใหญ่มากที่มีการพบ ซึ่งในอ่าวไทยปลาวาฬชนิดนี้พบอยู่บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (บ้านหินกรูด บ่อนอก) แต่เคยพบที่จังหวัดระยอง และไม่พบขณะมีชีวิต ยกเว้นที่หาดบางแสนที่เคยโผล่มาว่ายน้ำและเป็นตระกูลเดียวกัน อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาโครงกระดูกบริเวณศรีษะก่อนจึงจะประเมินและให้รายละเอียดได้อีกครั้ง

เบื้องต้นในขณะนี้ต้องมีการพิสูจน์ซากโครงกระดูกหาชิ้นส่วนที่ครบถ้วน และทำการรวบรวมตัวอย่างเก็บไว้ ก่อนจัดแสดงเพื่อการศึกษาและจัดทำการบันทึกประวัติใหม่ๆ ของปลาวาฬไว้ว่าบริเวณพื้นที่หาดทรายดำมีนั้นมีปลาวาฬอาศัยอยู่ จากนั้นจะได้ใช้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของจังหวัดตราดต่อไปในอนาคต

ด้านนายธนิต แสงวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน บ้านด่านเก่า กล่าวว่า ยังไม่ต้องการให้มีการขุดซากปลาวาฬในบริเวณป่าชายเลนที่หาดทรายดำ ที่ผ่านมาเคยรับรู้มาก่อนแล้วแต่ซากปลาวาฬอยู่ใต้ดินและใต้ป่าชายเลน หากขุดขึ้นมาจะกระทบสิ่งแวดล้อมของป่าชายเลน แต่เมื่อมีการขุดขึ้นมาแล้วนั้น ต้องดำเนินการต่อโดยจะประสานให้เทศบาลนำโครงกระดูกที่ได้มาเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนหาดทรายดำ ทั้งนี้ ปลาวาฬเป็นสัตว์คุ้มครองหากใครครอบครองไว้จะผิดกฎหมาย ส่วนผู้ที่มีเก็บไว้ต้องนำมาคืน โดยทางศูนย์ฯจะนำซากโครงกระดูกมาดำเนินการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ปลาวาฬบลูด้าของจังหวัดตราดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น