วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 3 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) จังหวัดตรัง และเป็นประธานมอบสินเชื่อให้กับประชาชน จำนวน 5 รายแรกของจังหวัดตรัง ตามโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบไปลงทะเบียนกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนที่มีหนี้นอกระบบเข้าเป็นหนี้ในระบบ โดยเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบสถาบันการเงินในเครือข่ายของรัฐได้ง่ายขึ้น อันเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่สูงมากเกินปกติ และเพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับรายจ่ายที่จำเป็นในครัวเรือน
โดยในส่วนของจังหวัดตรัง หลังสิ้นสุดการเปิดรับลงทะเบียนระยะที่ 1 วันที่ 30 ธันวาคม 2552 และระยะที่ 2 วันที่ 31 มกราคม 2553 ปรากฎว่า มีลูกหนี้นอกระบบได้มาลงทะเบียนกับธนาคารต่างๆ ทั้ง 6 ธนาคาร รวมประมาณ 10,000 ราย รวมยอดหนี้ประมาณ 1,100 ล้านบาท สูงสุดคือ ผ่านทางธนาคารออมสิน จำนวน 4,017 ราย ยอดหนี้ 422 ล้านบาท รองลงมาคือ ผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) 3,941 ราย ยอดหนี้ 447 ล้านบาท และผ่านธนาคารอื่นๆ
สำหรับการมอบสินเชื่อให้กับประชาชน จำนวน 5 รายแรกของจังหวัดตรัง แบ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคารออมสิน 4 ราย และถือเป็นรายใหญ่ที่สุด 2 ราย ประกอบด้วย นายประภาส ทองระหมาน 200,000 บาท และ นางมณีรัตน์ ทองระหมาน 200,000 บาท นางสาวจุรีพร พรมเพ็ชร 40,000 บาท และนายกันธร สัทธาประสิทธิ์ 30,000 บาท
โดยเฉพาะครอบครัวทองระหมาน ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษจากธนาคารออมสิน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการขายฝากหลักทรัพย์ จำนวน 400,000 บาท ดังนั้น ทางธนาคารออมสินจึงเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน นอกจากนั้น ยังมีการมอบสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ ให้กับเกษตรกรอีก 1 ราย คือ นางยุพิน หวานขัน 50,000 บาท ส่วนลูกหนี้ที่เหลือทั้งหมดของจังหวัดตรัง จะนำเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
นางมณีรัตน์ ทองระหมาน ลูกหนี้นอกระบบที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็ได้กล่าวของคุณรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา รวมทั้งขอบคุณธนาคารออมสิน และผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ที่ขานรับนโยบาย และเร่งดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนที่มีหนี้นอกระบบเข้าเป็นหนี้ในระบบ โดยเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบสถาบันการเงินในเครือข่ายของรัฐได้ง่ายขึ้น อันเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่สูงมากเกินปกติ และเพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับรายจ่ายที่จำเป็นในครัวเรือน
โดยในส่วนของจังหวัดตรัง หลังสิ้นสุดการเปิดรับลงทะเบียนระยะที่ 1 วันที่ 30 ธันวาคม 2552 และระยะที่ 2 วันที่ 31 มกราคม 2553 ปรากฎว่า มีลูกหนี้นอกระบบได้มาลงทะเบียนกับธนาคารต่างๆ ทั้ง 6 ธนาคาร รวมประมาณ 10,000 ราย รวมยอดหนี้ประมาณ 1,100 ล้านบาท สูงสุดคือ ผ่านทางธนาคารออมสิน จำนวน 4,017 ราย ยอดหนี้ 422 ล้านบาท รองลงมาคือ ผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) 3,941 ราย ยอดหนี้ 447 ล้านบาท และผ่านธนาคารอื่นๆ
สำหรับการมอบสินเชื่อให้กับประชาชน จำนวน 5 รายแรกของจังหวัดตรัง แบ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคารออมสิน 4 ราย และถือเป็นรายใหญ่ที่สุด 2 ราย ประกอบด้วย นายประภาส ทองระหมาน 200,000 บาท และ นางมณีรัตน์ ทองระหมาน 200,000 บาท นางสาวจุรีพร พรมเพ็ชร 40,000 บาท และนายกันธร สัทธาประสิทธิ์ 30,000 บาท
โดยเฉพาะครอบครัวทองระหมาน ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษจากธนาคารออมสิน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการขายฝากหลักทรัพย์ จำนวน 400,000 บาท ดังนั้น ทางธนาคารออมสินจึงเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน นอกจากนั้น ยังมีการมอบสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ ให้กับเกษตรกรอีก 1 ราย คือ นางยุพิน หวานขัน 50,000 บาท ส่วนลูกหนี้ที่เหลือทั้งหมดของจังหวัดตรัง จะนำเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
นางมณีรัตน์ ทองระหมาน ลูกหนี้นอกระบบที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็ได้กล่าวของคุณรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา รวมทั้งขอบคุณธนาคารออมสิน และผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ที่ขานรับนโยบาย และเร่งดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างเร่งด่วน
