xs
xsm
sm
md
lg

ชาวปากพนังแห่เชียร์กู้ชีพปลาวาฬ-รอปล่อยทะเลหลังพักฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ปฏิบัติการกู้ชีพวาฬน้อยพันธุ์นำร่องครีบสั้นส่งกลับคืนทะเลท่ามกลางกองเชียร์ระทึก ยังไม่สำเร็จ วาฬยังเพลียจัดและอ่อนแรง เจ้าหน้าที่ตั้งแคมป์ริมทะเลดูแลอาการต่อ

วันนี้ (30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ศูนย์พัฒนาประมงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยชาวบ้านได้ให้การช่วยเหลือปลาวาฬนำร่องครีบเล็กขนาดยาวกว่า 4 เมตรน้ำหนักกว่า 500 ก.ก.เพศเมีย ที่หลงฝูงขึ้นมาเกยหาดบ้านเนินน้ำหัก ม.6 ต.ปากพนัง ฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง ซึ่งอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย และนำขึ้นรถมาให้การดูแลที่บ่อขนาดใหญ่ริมทะเลบ้านท่าพญา ต.ปากพนัง ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา

มีนายสันติ นินวัฒน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ จากศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง และสัตวแพทย์หญิงพัชราพร แก้วโม่ง จากสถาบันวิจัยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและป่าชายเลน เป็นผู้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดพร้อมด้วยทีมงานอย่างต่อเนื่องจนวาฬดังกล่าวอยู่ในสภาพอาการดีขึ้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30 น.นายสันติ นินวัฒน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ จากศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง และสัตวแพทย์หญิงพัชราพร แก้วโม่ง จากสถาบันวิจัยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและป่าชายเลน ได้ร่วมกันหารือและตัดสินใจนำวาฬดังกล่าวส่งกลับคืนสู่ทะเลอ่าวไทย โดยใช้วิธีการใส่เปลนำขึ้นรถเครนและนำไปหย่อนลงทะเลที่สะพานบ้านหน้าโกฏิ ม.10 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางประชาชนที่นำบุตรหลานนับร้อยคนมาดูการเคลื่อนย้ายและการนำส่งคืนสู่ทะเลอย่างใจจดใจจ่อ

เมื่อได้เวลาสัตวแพทย์หญิงพัชราภรณ์ ได้ฉีดยาบำรุงให้กับวาฬตัวดังกล่าวก่อนที่จะประคองจากบ่อมาขึ้นเปลที่แช่รออยู่ในบ่ออย่างว่าง่ายและยังยังสังเกตเห็นได้ชัดว่าวาฬยังอยู่ในอาการค่อนข้างอ่อนเพลีย แต่สามารถกินอาหารได้บ้างแล้ว จากนั้นเครนได้ยกวาฬขึ้นมาบนรถบรรทุกโดยมีการดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งใช้ผ้าเปียกคลุม และราดน้ำบนตัวตลอดเวลา และรีบนำไปปล่อยลงทะเลที่สะพานหน้าโกฏิซึ่งอยู่ห่างจากบ่อพักไปราว 3 ก.ม.

ขณะที่เครนยกขึ้นจากรถบรรทุกวาฬมีอาการช๊อคหยุดหายใจ แต่เมื่อนำตัวลงน้ำได้แล้วจึงมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามประคองวาฬออกไปสู่ทะเลท่ามกลางการเอาในช่วยของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่พยายามประคองวาฬออกสู่ทะเลเห็นได้ชัดว่าวาฬยังอ่อนแรง จึงตัดสินใจอนุบาลต่อในจุดดังกล่าว

นายสันติ นินวัฒน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ จากศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ในฐานะหัวหน้าทีมกู้ชีพสัตว์ทะเลหายาก เปิดเผยว่าเท่าที่ดูอากรแล้ววาฬยังอ่อนแรงมาก หากปล่อยไปมีทางเดียวคือวาฬตัวนี้ต้องตายอย่างแน่นอนดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องตั้งแคมป์จุดนี้เพื่ออนุบาลและดูแลอาการวาฬอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.จนกว่าอาการจะดีขึ้น สามารถว่ายออกสู่ทะเลได้ จึงจะปล่อยออกไปทีมงานพยายามรักษาชีวิตวาฬตัวนี้ไว้ให้ได้




กำลังโหลดความคิดเห็น