นครศรีธรรมราช – โจ๋นครศรีฯ พิสดาร ต้มน้ำพืชกระท่อมสูตรเขย่าขวัญ นำขี้เถ้าเผาศพเป็นส่วนผสม สารวัตรนักเรียนยันมีจริงพบสุดเพี้ยนอ้างดื่มสูตรนี้แล้วเสน่ห์แรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะน้ำต้มพืชกระท่อมที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและเยาวชนอย่างกว้างขวางและแพร่ระบาดอย่างหนักแทบทุกหมู่บ้านทั่วทั้งจังหวัดแล้ว โดยล่าสุดมีการดัดแปลงเอาขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนเผาศพมาใส่เป็นส่วนผสมในน้ำต้มพืชกระท่อม โดยตั้งชื่อเรียกสูตรนี้ว่า “ตายโหง หรืออวตาร” ซึ่งเป็นความพิเรนทร์อย่างเหลือเชื่อ
นายโหง (นามสมมติ) อายุ 17 นักผลิตและดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมตัวยงคนหนึ่ง ใน ต.นาเคียน อ.เมือง เปิดเผยว่า ตนและเพื่อน ๆ ในกลุ่มประมาณเกือบ 20 คนมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้ผลิตและดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมมาแล้วทุกสูตร โดยล่าสุดที่ได้นำขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนเผาศพมาใส่เป็นส่วนผสมนั้นเป็นความเชื่อในหมู่เด็กและเยาวชนว่าหากดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมสูตรนี้จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง และแคล้วคลาดปลอดภัย เหมือนมีวิญาณของภูตผีปีศาจมาช่วยปกป้องคุ้มครอง ที่สำคัญน้ำต้มพืชกระท่อมสูตรนี้จะมีรสชาติและกลิ่นที่ชวนกิน เป็นกลิ่นและรดชาดที่ดีกว่าเหล้านอกดีๆ เสียอีก หากใครได้ดื่มกินแล้วจะติดใจ โดยเฉพาะถ้าได้ขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนที่เพิ่งเผาศพเสร็จใหม่ ๆ ด้วยแล้วถือว่าเป็นขี้เถ้าที่มีคุณภาพดีสุด
ผู้สื่อข่าวได้ออกตรวจสอบตามเมรุเผาศพของวัดต่าง ๆ พร้อมสอบถามชาวบ้านข้าง ๆ วัดต่างให้รายละเอียดว่าจะพบเห็นเด็กวันรุ่นขับรถ จยย.เข้ามาป้วนเปี้ยนที่เมรุเผาศพเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังการเผาศพเสร็จใหม่ ๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่เด็กในหมู่บ้าน แต่จะเป็นเด็กในหมู่บ้านข้างเคียง บางครั้งพบว่าเมื่อขับรถออกไปจะถือถุงหรือขวดอะไรติดไม้ติดมือออกไปด้วย แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเด็กเหล่านี้ เนื่องจากหากเข้าไปสอบถามหรือทำให้เด็กเหล่านี้ไม่พอใจชาวบ้านก็จะได้รับความเดือดร้อนโดยเด็กกลุ่มนี้จะรวมตัวกันมาขว้างปาก้อนหิน ก้อนอิฐถล่มบ้านได้รับความเสียหาย บางครั้งรถยนต์ที่อยู่อยู่ในบริเวณบ้านพังเสียหายยับเยิน หลายครั้งเด็กเหล่านี้จะใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านคนที่ขัดขวางหรือคนไม่เขาใม่พอใจ ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่อยากเสี่ยงกับเด็กเหลือขอเหล่านี้
นายสุมล อักษรพาลี อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เท่าที่ตนสังเกตเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้จะมีลักษณะที่ไม่เหมือนวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป ผู้หญิงจะมีหน้าตาดำเป็นดาน โดยเฉพาะที่บริเวณขอบตา แววตาทะมึน แข็งกร้าว ดุร้าย แต่เซื่องซึม เชื่องช้า เหมือนคนถูกผีสิง หรือคล้าย ๆ พวกผีดิบ ลักษณะอาการเหล่านี้ตนเชื่อว่าพวกเขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
ในขณะที่นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา เขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 (สารวัตรนักเรียน) เปิดเผยว่าเรื่องการใช้ส่วนผสมขี้เถ้าเผาศพมาในสูตรการต้มกระท่อมนั้นมีมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เป็นความพิเรนทร์อย่างเหลือเชื่อของวัยรุ่น ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรติดตามพฤติกรรมของบุตรหลานให้ใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่งพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลยแม้แต่ตัวเด็กเอง
“ผมเคยเอาตัวเด็กเหล่านี้มาพูดคุยหาเบื้องลึก จึงได้รู้ว่าวัยรุ่นกลุ่มที่นิยมน้ำต้มกระท่อมและมีส่วนผสมของเถ้าเผาศพนั้นมีความเชื่อว่า น้ำกระท่อมที่ต้มเสร็จแล้วที่มีส่วนผสมของเถ้าเผาศพจะเกิดอำนาจและเกิดพลังพิเศษที่อยู่ในตัวของผู้ที่ดื่มเข้าไป โดยเฉพาะการดึงดูดเพศตรงข้าม เมื่อเข้าไปพูดคุยด้วยจะเกิดพลังอำนาจที่ทำให้เพศตรงข้ามคล้อยตามและเกิดความหลงใหล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกมากที่เด็กวันรุ่นมีพฤติกรรมเช่นนี้ สารวัตรนักเรียนทำได้อย่างเดียวคือติดตามพฤติกรรมแจ้งสถานศึกษา แจ้งผู้ปกครองทราบหากเหลือบ่ากว่าแรงต้องส่งดำเนินการไปตามกฎหมาย ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ปัญหากันอย่างเร่งด่วนซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก” นายสมพงศ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะน้ำต้มพืชกระท่อมที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและเยาวชนอย่างกว้างขวางและแพร่ระบาดอย่างหนักแทบทุกหมู่บ้านทั่วทั้งจังหวัดแล้ว โดยล่าสุดมีการดัดแปลงเอาขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนเผาศพมาใส่เป็นส่วนผสมในน้ำต้มพืชกระท่อม โดยตั้งชื่อเรียกสูตรนี้ว่า “ตายโหง หรืออวตาร” ซึ่งเป็นความพิเรนทร์อย่างเหลือเชื่อ
นายโหง (นามสมมติ) อายุ 17 นักผลิตและดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมตัวยงคนหนึ่ง ใน ต.นาเคียน อ.เมือง เปิดเผยว่า ตนและเพื่อน ๆ ในกลุ่มประมาณเกือบ 20 คนมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้ผลิตและดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมมาแล้วทุกสูตร โดยล่าสุดที่ได้นำขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนเผาศพมาใส่เป็นส่วนผสมนั้นเป็นความเชื่อในหมู่เด็กและเยาวชนว่าหากดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมสูตรนี้จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง และแคล้วคลาดปลอดภัย เหมือนมีวิญาณของภูตผีปีศาจมาช่วยปกป้องคุ้มครอง ที่สำคัญน้ำต้มพืชกระท่อมสูตรนี้จะมีรสชาติและกลิ่นที่ชวนกิน เป็นกลิ่นและรดชาดที่ดีกว่าเหล้านอกดีๆ เสียอีก หากใครได้ดื่มกินแล้วจะติดใจ โดยเฉพาะถ้าได้ขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนที่เพิ่งเผาศพเสร็จใหม่ ๆ ด้วยแล้วถือว่าเป็นขี้เถ้าที่มีคุณภาพดีสุด
ผู้สื่อข่าวได้ออกตรวจสอบตามเมรุเผาศพของวัดต่าง ๆ พร้อมสอบถามชาวบ้านข้าง ๆ วัดต่างให้รายละเอียดว่าจะพบเห็นเด็กวันรุ่นขับรถ จยย.เข้ามาป้วนเปี้ยนที่เมรุเผาศพเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังการเผาศพเสร็จใหม่ ๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่เด็กในหมู่บ้าน แต่จะเป็นเด็กในหมู่บ้านข้างเคียง บางครั้งพบว่าเมื่อขับรถออกไปจะถือถุงหรือขวดอะไรติดไม้ติดมือออกไปด้วย แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเด็กเหล่านี้ เนื่องจากหากเข้าไปสอบถามหรือทำให้เด็กเหล่านี้ไม่พอใจชาวบ้านก็จะได้รับความเดือดร้อนโดยเด็กกลุ่มนี้จะรวมตัวกันมาขว้างปาก้อนหิน ก้อนอิฐถล่มบ้านได้รับความเสียหาย บางครั้งรถยนต์ที่อยู่อยู่ในบริเวณบ้านพังเสียหายยับเยิน หลายครั้งเด็กเหล่านี้จะใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านคนที่ขัดขวางหรือคนไม่เขาใม่พอใจ ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่อยากเสี่ยงกับเด็กเหลือขอเหล่านี้
นายสุมล อักษรพาลี อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เท่าที่ตนสังเกตเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้จะมีลักษณะที่ไม่เหมือนวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป ผู้หญิงจะมีหน้าตาดำเป็นดาน โดยเฉพาะที่บริเวณขอบตา แววตาทะมึน แข็งกร้าว ดุร้าย แต่เซื่องซึม เชื่องช้า เหมือนคนถูกผีสิง หรือคล้าย ๆ พวกผีดิบ ลักษณะอาการเหล่านี้ตนเชื่อว่าพวกเขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
ในขณะที่นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา เขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 (สารวัตรนักเรียน) เปิดเผยว่าเรื่องการใช้ส่วนผสมขี้เถ้าเผาศพมาในสูตรการต้มกระท่อมนั้นมีมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เป็นความพิเรนทร์อย่างเหลือเชื่อของวัยรุ่น ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรติดตามพฤติกรรมของบุตรหลานให้ใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่งพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลยแม้แต่ตัวเด็กเอง
“ผมเคยเอาตัวเด็กเหล่านี้มาพูดคุยหาเบื้องลึก จึงได้รู้ว่าวัยรุ่นกลุ่มที่นิยมน้ำต้มกระท่อมและมีส่วนผสมของเถ้าเผาศพนั้นมีความเชื่อว่า น้ำกระท่อมที่ต้มเสร็จแล้วที่มีส่วนผสมของเถ้าเผาศพจะเกิดอำนาจและเกิดพลังพิเศษที่อยู่ในตัวของผู้ที่ดื่มเข้าไป โดยเฉพาะการดึงดูดเพศตรงข้าม เมื่อเข้าไปพูดคุยด้วยจะเกิดพลังอำนาจที่ทำให้เพศตรงข้ามคล้อยตามและเกิดความหลงใหล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกมากที่เด็กวันรุ่นมีพฤติกรรมเช่นนี้ สารวัตรนักเรียนทำได้อย่างเดียวคือติดตามพฤติกรรมแจ้งสถานศึกษา แจ้งผู้ปกครองทราบหากเหลือบ่ากว่าแรงต้องส่งดำเนินการไปตามกฎหมาย ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ปัญหากันอย่างเร่งด่วนซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก” นายสมพงศ์กล่าว