โจรพม่าอาการปลอดภัยแล้วหลังใช้ระเบิดบุกเดี่ยวปล้นแบงก์ที่สุราษฎร์ฯ

สุราษฎร์ธานี - แรงงานต่างด้าวชาวพม่า นำวัตถุระเบิดบุกเดี่ยวปล้นธนาคารกรุงไทย สาขาพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ยิงสกัดจับได้รับบาดเจ็บ หลังคนร้ายขว้างระเบิดเข้าใส่ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงอาการล่าสุดของ นายอ๊อด ไม่ทราบนามสกุล ชาวพม่าสัญชาติมอญ หลังก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้วัตถุระเบิด 2 ลูก บุกเข้าปล้น ธนาคารกรุงไทย สาขาพุนพิน เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม ต.พุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อช่วงบายวันที่ 25 มกราคม 2553 ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดนายอ๊อด ปลอดภัยแล้ว

โดยนายอ๊อด ได้เดินเข้าไปในธนาคาร พร้อมตะโกน และโยนกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ใส่พนักธนาคารว่า นี่คือการปล้น ต้องการเงินจำนวน 15 ล้านบาท ใส่กระเป๋า เจ้าหน้าที่ธนาคารต่อรอง เนื่องจากไม่มีเงินมากพอ สร้างความไม่พอใจให้กับนายอ๊อด เป็นอย่างมาก
 
ประกอบกับมีอาการมึนเมา คล้ายคนเมายา และชูลูกระเบิดขึ้นทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการต่างแตกตื่น คนร้ายได้เดินไป-มา ในธนาคารนานกว่า 6 นาที จึงชิงเงินจำนวน 54,000 บาท หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าปิดล้อมสกัดจับ แต่เนื่องจากคนร้ายมีลูกระเบิด และเป็นย่านชุมชน เจ้าหน้าที่จึงไม่กล้าเข้าจับกุม เกรงว่าชาวบ้าน จะได้รับอันตราย คนร้ายจึงเดินหลบหนีไปทาง 3 แยกพุนพิน บริเวณหน้าเทศบาลเมืองท่าข้าม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามอย่างกระชั้นชิด สั่งให้คนร้ายมอบตัวคนร้ายขว้างลูกระเบิดมือ ชนิด MA2 โชคดีระเบิดไม่ทำงาน

จากนั้น คนร้ายจึงเดินหลบหนีมุ่งหน้าไปทางสะพานจุลจอมเกล้า ข้ามแม่น้ำตาปี ถนนสายพุนพิน-หนองขรี ถึงบริเวณตีนสะพานห่างไกลจากย่านชุมชนคนร้ายได้ตะโกนข่มขู่ หากติดตามจะขว้างลูกระเบิดใส่ เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงสกัดการหลบหนี คนร้ายได้ขว้างลูกระเบิดที่เหลืออีก 1 ลูก ใส่เจ้าหน้าที่ระเบิดดังสนั่น เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

เนื่องจากใช้ราวสะพานเป็นที่กำบัง คนร้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณ ต้นขา และสะโพกเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี หลังเกิดเหตุ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผกก.สภ.พุนพิน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกองบิน 7 เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิด บริเวณหน้าเทศบาลท่าข้าม เพื่อทำลายทางเจ้าหน้าที่ระบุในเบื้องต้นว่าไม่เชื่อว่าจะลงมือปล้นธนาคารเพียงคนเดียว
 
ซึ่งคาดว่าผู้ร่วมก่อเหตุเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการภาค 8 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สอบสวนหาผู้ร่วมก่อเหตุปล้นธนาคารมาดำเนินคดีเนื่องจากเป็นเหตุร้ายแรง และมีการใช้อาวุธสงคราม