ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสพบรองผู้ว่าฯ ภูเก็ต หารือเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยว ระบุแต่ละปีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 3 แสนคน พร้อมห่วงระบบเตือนภัยสึนามิ ซึ่งจังหวัดยืนยันพร้อมเต็มที่ในการแจ้งเตือนภัย
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ นายจิลดาส์ เลอ ลี เดค เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศและภริยา รวมถึงนายลูเซียง โรดิเกซ กงสุลกิตติมศักดิ์ จังหวัดภูเก็ต และ คณะในโอกาสเดินเยือนจังหวัดภูเก็ต
นายสมิทธิ์กล่าวว่า วันนี้เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย มาพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน เนื่องจากภูเก็ตเป็นเป้าหมายหนึ่งในการเดินทางมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปีละประมาณ 3 แสนคน
นอกจากนี้ยังมีชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งชุมชนอาศัย และประกอบอาชีพอยู่อีกจำนวนประมาณ 2,000-3,000 คน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจุบันประเทศในแถบยุโรปนั้นประสบกับภาวะอากาศหนาว
ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ยังได้หารือถึงแนวทางการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีที่ประสบอุบัติเหตุ จากการประกอบกิจกรรมหรือการเดินทางท่องเที่ยว เช่น การเล่นเจ็ทสกี การขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นต้น
นายสมิทธิ์กล่าวต่อไปว่า จากการพูดคุยก็ได้เสนอแนะเสนอแนะว่าในการทำกิจกรรมต่างๆ นั้นควรที่จะมีการทำประกันภัยซึ่งจริงแล้วจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาภายหลัง ส่วนเรื่องของการขับขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อยนั้น อาจจะไม่ชำนาญเส้นทางหรือไม่ชำนาญการขับขี่รถจักรยานยนต์
นอกจากนี้ นายสมิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า อีกปัญหาที่ทางเอกอัครราชทูตฯ เป็นห่วง ได้แก่ ระบบสัญญาณเตือนภัย ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงแล้วว่าหลังจากเกิดธรณีพิบัติภัยสึนามิ ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัย ซึ่งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ตรวมจำนวน 19 จุด ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จัดสรรงบประมาณในการติดตั้งทุ่นเตือนภัยในทะเลอีก 2 จุด และยังได้มีการจัดฝึกซ้อมแผนอพยพย่อยปีละ 2 ครั้ง และมีการฝึกซ้อมใหญ่อีก 1 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าหากเกิดภัยขึ้นสามารถที่จะป้องกันและอพยพประชาชนได้ทันอย่างแน่นอน
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ นายจิลดาส์ เลอ ลี เดค เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศและภริยา รวมถึงนายลูเซียง โรดิเกซ กงสุลกิตติมศักดิ์ จังหวัดภูเก็ต และ คณะในโอกาสเดินเยือนจังหวัดภูเก็ต
นายสมิทธิ์กล่าวว่า วันนี้เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย มาพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน เนื่องจากภูเก็ตเป็นเป้าหมายหนึ่งในการเดินทางมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปีละประมาณ 3 แสนคน
นอกจากนี้ยังมีชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งชุมชนอาศัย และประกอบอาชีพอยู่อีกจำนวนประมาณ 2,000-3,000 คน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจุบันประเทศในแถบยุโรปนั้นประสบกับภาวะอากาศหนาว
ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ยังได้หารือถึงแนวทางการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีที่ประสบอุบัติเหตุ จากการประกอบกิจกรรมหรือการเดินทางท่องเที่ยว เช่น การเล่นเจ็ทสกี การขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นต้น
นายสมิทธิ์กล่าวต่อไปว่า จากการพูดคุยก็ได้เสนอแนะเสนอแนะว่าในการทำกิจกรรมต่างๆ นั้นควรที่จะมีการทำประกันภัยซึ่งจริงแล้วจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาภายหลัง ส่วนเรื่องของการขับขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อยนั้น อาจจะไม่ชำนาญเส้นทางหรือไม่ชำนาญการขับขี่รถจักรยานยนต์
นอกจากนี้ นายสมิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า อีกปัญหาที่ทางเอกอัครราชทูตฯ เป็นห่วง ได้แก่ ระบบสัญญาณเตือนภัย ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงแล้วว่าหลังจากเกิดธรณีพิบัติภัยสึนามิ ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัย ซึ่งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ตรวมจำนวน 19 จุด ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จัดสรรงบประมาณในการติดตั้งทุ่นเตือนภัยในทะเลอีก 2 จุด และยังได้มีการจัดฝึกซ้อมแผนอพยพย่อยปีละ 2 ครั้ง และมีการฝึกซ้อมใหญ่อีก 1 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าหากเกิดภัยขึ้นสามารถที่จะป้องกันและอพยพประชาชนได้ทันอย่างแน่นอน
