ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.เมืองภูเก็ตรวบ 2 วัยรุ่นร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกายกลุ่มวัยรุ่นจนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย พร้อมออกหมายจับวัยรุ่นที่เหลืออีก 7 คน
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต แถลงผลการจับกุมนายกฤษ อายุ 16 ปี (นามสมมติ) อยู่บ้านเลขที่ 85/149 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต และนายเอก อายุ 17 ปี (นามสมมติ) อยู่บ้านเลขที่ 7/4 ม.5 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต ตามข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมด้วยมีดปลายแหลมจำนวน 3 เล่ม ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 01.45 น.ของวันที่ 17 มกราคม 53 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน รพ.วชิระ ภูเก็ต ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยของมีคมมารักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายณรงค์ฤทธิ์ ส่งเสมอ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/11 ถนนดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายรักธิพงศ์ ทนน้ำ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/27 ซ.สามกอง 1 ม.6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายจิรเดช กุฏอินทร์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/36 ม.6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่นายณรงค์ฤทธิ์ และนายรักธิพงศ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปสอบปากคำเพิ่มเติม
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเจมส์ (นามสมมติ) ได้มีเหตุชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นที่หน้าร้านเขียวตอง แต่สู้ไม่ได้ก็ได้หลบหนีไป หลังจากนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน เดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อมาไกล่เกลี่ย แต่เมื่อเดินทางมาถึง ฝ่ายตรงข้ามคิดว่านายเจมส์ได้ยกพวกมารุมทำร้ายร่างกาย และเกิดการต่อสู้ทำร้ายร่างกายกันขึ้น และหนึ่งในกลุ่มของนายกฤษก็ได้ใช้อาวุธมีดแทงไปที่กลุ่มฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ 2 คน จากนั้นทั้ง 2 กลุ่มก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทางกลุ่มเพื่อนๆ ก็ได้รีบนำส่ง รพ.วชิระ
ด้าน นายณรงค์ฤทธิ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของเพื่อนมาถึงหน้าโรงเรียนสตรีภูเก็ต มีนายกฤษและนายเอกขับรถจักรยานยนต์มาทัน ก็ได้ขับรถมาขวางทาง นายณรงค์ฤทธิ์จึงได้ลงจากรถเพื่อจะเข้าไปคุยแต่กลับถูกนายกฤษและนายเอกใช้อาวุธมีดแทงไปที่ร่างกายของนายณรงค์ฤทธิ์ ได้รับบาดเจ็บจากนั้นทั้งสองก็ได้ขับรถหลบหนีไป ส่วนนายณรงค์ฤทธิ์นั้นเพื่อนๆ ได้นำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต แต่นายณรงค์ฤทธิ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตพร้อมด้วยนายรักธิพงศ์ ส่วนนายจิรเดช ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่รพ.วชิระภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนทราบตัวผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายจับนายกฤษ และนายเอก ต่อศาลจังหวัดภูเก็ตแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว พร้อมทั้งติดตามจับกุมทั้ง 2 คนมาทำการสอบสวน ซึ่งในเบื้องต้น ทั้ง 2 ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าขณะที่นั่งอยู่ที่ร้านก็มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน จากนั้นผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง กลุ่มของผู้ตายขับรถกลับมาพร้อมเพื่อนกว่า 10 คน และหนึ่งในนั้นได้เข้ามาถามที่ ที่โต๊ะพวกตนว่าใครต่อยน้องกู พวกตนก็บอกไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งเกิดการตะลุมบอนทำร้ายร่างกายกันขึ้น โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนใช้อาวุธมีดแทงกันแน่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปักใจเพื่อในคำให้การของนายกฤษ และนายเอก โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ตคดีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว เพื่อติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่เหลือประมาณ 7 คนที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต แถลงผลการจับกุมนายกฤษ อายุ 16 ปี (นามสมมติ) อยู่บ้านเลขที่ 85/149 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต และนายเอก อายุ 17 ปี (นามสมมติ) อยู่บ้านเลขที่ 7/4 ม.5 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต ตามข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมด้วยมีดปลายแหลมจำนวน 3 เล่ม ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 01.45 น.ของวันที่ 17 มกราคม 53 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน รพ.วชิระ ภูเก็ต ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยของมีคมมารักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายณรงค์ฤทธิ์ ส่งเสมอ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/11 ถนนดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายรักธิพงศ์ ทนน้ำ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/27 ซ.สามกอง 1 ม.6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายจิรเดช กุฏอินทร์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/36 ม.6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่นายณรงค์ฤทธิ์ และนายรักธิพงศ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปสอบปากคำเพิ่มเติม
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเจมส์ (นามสมมติ) ได้มีเหตุชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นที่หน้าร้านเขียวตอง แต่สู้ไม่ได้ก็ได้หลบหนีไป หลังจากนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน เดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อมาไกล่เกลี่ย แต่เมื่อเดินทางมาถึง ฝ่ายตรงข้ามคิดว่านายเจมส์ได้ยกพวกมารุมทำร้ายร่างกาย และเกิดการต่อสู้ทำร้ายร่างกายกันขึ้น และหนึ่งในกลุ่มของนายกฤษก็ได้ใช้อาวุธมีดแทงไปที่กลุ่มฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ 2 คน จากนั้นทั้ง 2 กลุ่มก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทางกลุ่มเพื่อนๆ ก็ได้รีบนำส่ง รพ.วชิระ
ด้าน นายณรงค์ฤทธิ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของเพื่อนมาถึงหน้าโรงเรียนสตรีภูเก็ต มีนายกฤษและนายเอกขับรถจักรยานยนต์มาทัน ก็ได้ขับรถมาขวางทาง นายณรงค์ฤทธิ์จึงได้ลงจากรถเพื่อจะเข้าไปคุยแต่กลับถูกนายกฤษและนายเอกใช้อาวุธมีดแทงไปที่ร่างกายของนายณรงค์ฤทธิ์ ได้รับบาดเจ็บจากนั้นทั้งสองก็ได้ขับรถหลบหนีไป ส่วนนายณรงค์ฤทธิ์นั้นเพื่อนๆ ได้นำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต แต่นายณรงค์ฤทธิ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตพร้อมด้วยนายรักธิพงศ์ ส่วนนายจิรเดช ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่รพ.วชิระภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนทราบตัวผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายจับนายกฤษ และนายเอก ต่อศาลจังหวัดภูเก็ตแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว พร้อมทั้งติดตามจับกุมทั้ง 2 คนมาทำการสอบสวน ซึ่งในเบื้องต้น ทั้ง 2 ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าขณะที่นั่งอยู่ที่ร้านก็มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน จากนั้นผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง กลุ่มของผู้ตายขับรถกลับมาพร้อมเพื่อนกว่า 10 คน และหนึ่งในนั้นได้เข้ามาถามที่ ที่โต๊ะพวกตนว่าใครต่อยน้องกู พวกตนก็บอกไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งเกิดการตะลุมบอนทำร้ายร่างกายกันขึ้น โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนใช้อาวุธมีดแทงกันแน่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปักใจเพื่อในคำให้การของนายกฤษ และนายเอก โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ตคดีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว เพื่อติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่เหลือประมาณ 7 คนที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป
