xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ สตูลจัดประชุมเยี่ยวยาเยาวชน 2 หมู่บ้านหลังก่อเหตุทะเลาะวิวาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สตูล - ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลจัดประชุมทุกฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่าง 2 หมูบ้าน หลังก่อเหตุทะเลาะขั้นยิงกันนานหลายครั้ง วอนผู้ใหญ่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ทางอำเภอ ตำรวจภาครัฐ เอกชน และผู้ปกครอง เข้าช่วยเหลือในด้านต่างๆ

วันนี้ (6 ต.ค.) นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรียกประชุมด่วน นายอำเภอเมืองสตูล ผู้นำท้องถิ่น ประธานกรรมการอิสลาม ตำรวจ โต๊ะอิหม่าม คอติบ บิหลั่น พ่อแม่ผู้ปกครองวัยรุ่น เยาวชน บ้านควน ต.บ้านควนและวัยรุ่นบ้านฉลุง ต.ฉลุงอ.เมือง จ.สตูล ร่วม 200 คน ประชุมแก้ไขปัญหากลุ่มวัยรุ่น ที่ห้องประชุมที่ทำการคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล พร้อมนำของกลาง อาวุธปืน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ฉับโผง ยาแก้ไอ ยาอัลฟาโซแลม ภายหลังเกิดเหตุการณ์ยิงกันระหว่าง 2 หมู่บ้านดังกล่าวหลายต่อหลายครั้งจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเกิดการหวาดระแวงยามวิกาล

โดยการประชุมร่วมครั้งนี้ หลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างให้ความเห็นในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าร่วมรับฟังการประชุมก็เข้าใจในความหวังดีของผู้ใหญ่ที่ต้องการให้เกิดการปรองดองกันระหว่าง 2 หมู่บ้านที่พูดภาษาเดียวกัน คือ ภาษามลายู และเป็นญาติกันทั้งนั้น ภายหลังการร่วมประชุมแก้ไขปัญหาดังกล่าว กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้จับมือขออภัยซึ่งกันและกัน และพร้อมที่จะเข้าร่วมอบรมละลายพฤติกรรมเสริมสร้างความสามัคคี หันมาเล่นกีฬา

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลกล่าวว่า โดยสรุปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากเด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-18 ต้นๆ ซึ่งเกิดจากความอยากรู้อยากเห็นเรียกว่าความซ่ายังมีอยู่ เรื่องที่ 2 ในเรื่องของยาเสพติดโดยเฉพาะยาโดมิคุ่ม ซึ่งเป็นยานอนหลับอย่างแรง มาผสมกับยาแก้ไอ ยาอัลฟาโซเลม เมื่อนำมาผสมกินเข้าไปแล้วทำให้เกิดความคึกคะนองเกิดความกล้า บางคนตาค้างประเภทเห็นหมูตัวเท่าช้าง เป็นต้น เมื่อใครชวนไปไหนก็ไป การทะเลาะเบาะแว้งกันก็มีขึ้น ซึ่งเรื่องของยาเสพติดทั้งหมดต้องกำจัด ทั้งสุรา ยาแก้ไอ น้ำกระท่อม 4 คูณ 100 ต้องไม่มี

จากนั้นก็ให้รู้บทบาทของตนเองอย่างที่ศาสนาอิสลามสอนไว้ว่า พ่อแม่ต้องมาดูลูกหลานเอง ทุกวันศุกร์อิหม่ามก็ต้องมีการสอน โดยเฉพาะอิหม่ามจำเป็นต้องสอนลูกสอนหลานว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ดีอย่างไร ส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องรู้บทบาทหน้าที่ไม่ใช่ผลักให้เป็นเรื่องของตำรวจ เรื่องของนายอำเภอซึ่งไม่ใช่ ทุกคนมีหน้าที่หมดอำเภอเองก็ต้องลงไปดูแลให้มากขึ้นไม่ใช่หายไปเลย แม้ผู้ว่าฯก็ต้องลงมาดู

ขณะเดียวกัน ในระยะต้นต้องสนธิกำลังกัน ไม่ใช่มาบอกว่ากำลังน้อยไม่มีกำลังซึ่งมันไม่ใช่ ต้องสนธิกำลังกันทั้งตำรวจท้องที่ หน่วย นปพ.เจ้าหน้าที่ ชรบ. อส.โดยให้ทางอำเภอส่งมาสนธิกำลังกัน ในช่วงต้นจะต้องมีชุดเหล่าที่ออกเดินตรวจตราบ่อยๆ ซึ่งไม่ใช้จุดนี้อย่างเดียวในจุดอื่นก็ต้องดูแลเช่นพื้นที่ตำบลท่าแพ อ.ท่าแพ เขตตำบลสาคร อ.ท่าแพ ที่เป็นเขตต่อเนื่องมีวัยรุ่นทะเลาะกันบ่อยครั้งด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องให้วัคซีนป้องกันไว้เลย ที่สำคัญที่สุดก็ให้วัยรุ่นรู้ป้องกันตัวเอง บางพื้นที่ได้ออกมาเล่นกีฬามากขึ้น อยากได้โต๊ะปิงปอง อยากได้สนามฟุตซอล ทางจังหวัดก็จะจัดการให้

คาดว่าเหตุการณ์ต่างๆ คงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และผู้ใหญ่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ทางอำเภอ ตำรวจ จะไม่นิ่งดูดายจะมีการเข้าดูแลตรงนี้ให้มากขึ้น





กำลังโหลดความคิดเห็น