xs
xsm
sm
md
lg

มท.3 เยี่ยมเหยื่อถล่มไอปาแย หลังผู้ต้องหาอดีตทหารพรานมอบตัวที่กองปราบฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นราธิวาส – คณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เยี่ยมเยียนชาวบ้านไอปาแย หลังผ่านเหตุการณ์เลวร้าย เพื่อบำรุงขวัญและติดตามการช่วยเหลือพัฒนาหมู่บ้าน เผยมอบหมายให้กระบวนการยุติธรรมหาผู้กระทำผิด ซึ่งล่าสุดอดีตทหารพรานที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้มอบตัวที่กองปราบปรามแล้ว



วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.50 น. ที่มัสยิดอัลฟุรกอน ซึ่งตั้งอยู่ ม.8 บ.ไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางพร้อมคณะ อาทิ นายประมุข ละมุล รอง ผอ.ศอ.บต., นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี, นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส โดยมีนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, นายสมศักดิ์ สิทธิวรการ นายอำเภอเจาะไอร้อง, พ.ต.อ.พีรพล ณ พัทลุง และ พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ร่วมให้การต้อนรับพร้อมชาวบ้านไอปาแยและใกล้เคียงกว่า 300 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจฝ่ายปกครองกระจายกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

นายถาวร ได้พบปะกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มชาวบ้านขณะประกอบพิธีละหมาดอยู่ภายในมัสยิดอัลฟุรกอน เหตุเกิดเมื่อคืนของวันที่ 9 มิ.ย.2552 ส่งผลทำให้นายแวดอเลาะ กูแวกามา โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดอัลฟุรกอน รวมทั้งชาวบ้านเสียชีวิตรวม 10 ราย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 13 ราย

ล่าสุด นายสุทธิรักษ์ คงสุวรรณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ม.10 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส ที่เป็น 1 ในผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับคดียิงถล่มมัสยิดอัลฟุรกอนได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา สบ.10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2553 ที่ผ่านมา

นายสุทธิรักษ์ปฏิเสธในทุกข้อหา ไม่ว่าจะเป็นคดียิงถล่มมัสยิดไอปาแย คดีปล้นฆ่านางกือลือซง ลาเต๊ะ อายุ 29 ปี เสียชีวิตที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2551 รวมทั้งคดียิงนายอับดุลดอเละ ซายอ เสียชีวิตที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดวันที่ 17 พ.ย.2551 ส่วนนายลุกมัน ลาเต๊ะ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 1 รายอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่

หลังจากนั้นนายถาวรได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 80 ชุดให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไอปาแยซึ่งมีฐานะยากจน ก่อนที่จะกล่าวกับชาวบ้านว่า การเดินทางของตนเองครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญในมัสยิดไอปาแย เป็นการนำความปรารถนาดีและความห่วงใยของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่จริงจังและจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ที่มีความต่างของศาสนา

นอกเหนือจากเงินงบประมาณโดยรวม 16,000 ล้านบาทตามแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่ชาวบ้านร้องขอจากการทำเวทีประชาคม เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของทุกชุมชน โดยเฉพาะบ้านไอปาแยที่ต้องใช้เวลาเยียวยาสภาพจิตใจ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดการก่อสร้างโรงเรียนตาดีกา รั้ว บาลาเซาะหรือสถานที่ละหมาดขนาดเล็กและการขุดลอกคลองในหมู่บ้านไอปาแยคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทุนการศึกษา 40 ทุนที่มีการร้องขอจากชาวบ้านให้บุตรหลานนั้น ภายในกลางเดือน ก.พ.นี้จะได้รับอย่างแน่นอน และเป็นสิ่งชี้วัดว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ซึ่งน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา จะทำให้ชาวไอปาแยทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของภาครัฐเช่นกัน

ส่วนการมอบตัวของนายสุทธิรักษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับนั้น รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงและก้าวก่ายการทำงาน โดยเฉพาะการพิจารณาคดีในศาลได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและดุลยพินิจของอัยการ ที่สำคัญตนเองและรัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องการให้เกิดการแก้แค้นจากทุกฝ่าย แต่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันกดดันกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเพื่อจะได้รู้ตัวและทำการออกหมายจับต่อไป

ซึ่งก่อนที่คณะจะเดินทางกลับ นายถาวรได้ไปติดตามดูความคืบหน้าการก่อสร้างโรงเรียนตาดีกา รวมทั้งโครงการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ชาวบ้านไอปาแยเรียกร้องเพิ่มเติมอีก 2 โครงการคือ การซ่อมแซมและก่อสร้างที่อยู่อาศัยตามโครงการไทยเข้มแข็งให้แก่ผู้ยากจนและเดือดร้อนจำนวน 15 ครัวเรือน รวมทั้งการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่ปัจจุบันสวนยางพาราและสวนผลไม้ชองชาวบ้านเกิดปัญหาทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ซึ่งชาวบ้านอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยด่วนเพื่อนำไปสู่การมีสิทธิ์ในที่ดินทำกินอย่างมั่นคง โดยนายถาวรรับปากกับชาวบ้านว่า จะนำเสนอต่อ ครม. เพื่ออนุมัติงบประมาณให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น