นครศรีธรรมราช - รถบัสสายนครศรีธรราช-ทุ่งสง ซิ่งนรกพุ่งชน รถอาสาสมัครมูลนิธิไต้เต๊กตึ๊งขณะปฏิบัติหน้าที่ กวาดรถบนถนน 8 คันรวด ดับชีวิตหนุ่ม วัย 40 บาดเจ็บอีก 14 ราย ส่วนคนขับชิ่งหนีตามระเบียบ
วันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.ท.วรจิตร วรศรี พนักงานสอบสวนเวร สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งอุบัติเหตุรถบัสโดยสารและรถยนต์ชนกันหลายคันบนถนนสายนครศรีธรราช-ทุ่งสง ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ม.1 ต.ท้ายสำเภา จากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยได้เต๊กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุพบว่าการจราจรติดขัดยาวนับกิโลเมตร เมื่อไปถึงพบผู้บาดเจ็บกระจัดกระจายอยู่ถึง 14 ราย จึงรีบเคลื่อนย้ายนำส่ง รพ.มหาราช และพบผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซุ้มล้อหน้าด้านขวาของรสบัสโดยสารปรับอากาศสายนครศรีธรรมราช-พัทลุง ทะเบียน 10-1983 พัทลุง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน
ทางด้านซ้ายของตัวรถพบรถยนต์กระบะดัทสันสภาพเก่าที่กลายเป็นเศษซากเหล็ก ทะเบียน บธ-8987 นครศรีธรรมราช โดยตลาดเส้นทางก่อนถึงตัวรถบัสกว่า 150 เมตร มีรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายยับเยินทั้งรถยนต์กระบะ รถตู้ และรถอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิไต้เต๊กตึ๊ง รถจักรยานยนต์พ่วงข้างรวม 10 คันกระจัดกระจายอยู่ท่ามกลางไทยมุงหลายร้อยคนที่มาดูเหตุการณ์ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุประมาณ 40 ปีเศษ นั้นเจ้าหน้าที่ได้กู้ออกมาจากซุ้มล้อรถบัสพบว่าไม่มีหลักฐานใดๆในตัวไม่สามารถระบุชื่อได้
เบื้องต้นจากการสอบสวนทำแผนที่ในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ ประมาณภายในซอยโรงเรียนวัดป่ายาง ม.1 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นนักเรียนโรงเรียนดังกล่าว
หลังจากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิไต้เต๊กตึ๊ง เข้าให้การช่วยเหลือ ปรากฏว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครนำผู้บาดเจ็บรวม 3 รายออกมาจากจุดเกิดเหตุ และมาส่งต่อให้กับรถกู้ชีพ ที่มีอุปกรณ์พร้อมกว่าบริเวณริมถนนสายดังกล่าว ทำให้รถยนต์ที่ใช้เส้นทางเห็นเหตุการณ์ต่างชะลอดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่รถบัสโดยสารคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนกวาดรถยนต์ที่ชะลอในบริเวณนั้นเสียงดังสนั่นและไม่มีทีท่าว่าจะเบรก ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ในท้ายรถกระบะกระเด็นไปติดอยู่ในซุ้มล้อรถบัสเสียชีวิตทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เกิดความโกลาหลนั้น ผู้ขับขี่รถโดยสารได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับบริษัทผู้ให้บริการรถคันดังกล่าว ติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว
