นครศรีธรรมราช - สาวใหญ่เจ้าของร้านคาราโอเกะหึงโหด ขวานจามหัวแฟนหนุ่มนักดนตรีเละ มีดเฉือนตัดจู๋หาย ก่อนนำศพถีบทิ้งเหวลึก”เขาหัวช้าง” หลังพบศพตร.ตามรวบทันควัน-รับสารภาพแค้นผู้ตายตีตัวออกห่าง อ้างก่อเหตุสุดสยองคนเดียว-แต่ตำรวจไม่เชื่อคาดมีผู้ร่วมฆ่าโหดไม่น้อยกว่า 2 คน
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.จิรพงษ์ ฝายราช พนักงานสอบสวน (ส.บ.3) ทำหน้าที่สารวัตรเวร สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพในเหวข้างเขาหัวช้าง ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี บ้านเขาหัวช้าง หมู่ 10 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.พ.ต.ท.อรุณ ร่วมศรีนวล รอง ผกก.สส. แพทย์เวร รพ.ขนอม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประจำอำเภอขนอม และกำลังตำรวจชุดสืบสวน เข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในจุดพบศพ เป็นช่วงหุบเหวลึกลาดลงไปกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องไต่ลงไปด้วยความยากลำบากก่อนที่จะถึงจุดพบศพ ซึ่งพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายฉกรรจ์ อายุประมาณ 30 - 40 ปี สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 - 4 วัน ลักษณะพองอืดส่งกลิ่นมีหนอนชอนไชบ่งชี้ว่าศพอยู่ในจุดดังกล่าวมาได้ระยะหนึ่งแล้วจนมีการวางไข่ของแมลงวัน และแมลงต่างๆ จนฟักเป็นตัวหนอน และไม่พบว่าสวมใส่เสื้อผ้าไม่พบหลักฐานใดๆ ที่พอจะระบุตัวบุคคลได้ หลังจากตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมช่วงศีรษะและใบหน้าหลายแผล บริเวณลำคอถูกเชือดลึกจนถึงกระดูกต้นคออวัยวะเพศถูกตัดหายไป
ต่อมา น.ส.ชมพู มะลิ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 6 ต.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยญาติสนิทหลายคนเข้าแสดงตัวกับ พ.ต.ท.จิระพงษ์ ฝายราช พนักงานสอบสวน เพื่อขอตรวจสอบรูปพรรณศพเนื่องจากสงสัยว่าจะเป็นศพของนายพรชัย มะลิ อายุ 36 ปี พี่ชายของตนเอง และเมื่อตรวจสอบแล้วจึงยืนยันว่าศพดังกล่าวคือนายพรชัย มะลิ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 6 ต.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ทำงานเป็นนักดนตรี และเป็นนักร้องนำวงดนตรี “น้องจันทร์” ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวเพื่อชีวิต รับงานแสดงตามร้านอาหารทั่วไปใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเล่นประจำอยู่ที่ร้าน “น้องจันทร์คาราโอเกะ” ในตัวอำเภอขนอม อีกด้วย
น.ส.ชมพู มะลิ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ต่อว่าช่วงดึกวันที่ 29 ธ.ค. 2552 ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์จำนวน 1 คนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กฉ-7502นครศรีธรรมราช มารับตัวนายพรชัย จากบ้านพักใน ต.เปลี่ยน อ.สิชล ห่างจากอำเภอขนอมไปราว 30 กม.โดยอ้างว่านางจรรยาหรือทัศนีย์ ใจสบาย อายุ 39 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะ “น้องจันทร์คาราโอเกะ” ในตัวอำเภอขนอม ซึ่งเป็นสาวที่นายพรชัยใกล้ชิดลึกซึ้งให้มารับตัว
นายพรชัยจึงเดินทางไปกับชายคนดังกล่าว และได้หายตัวไปตั้งแต่เวลานั้นจนกระทั่งพบศพ ที่ผ่านมาญาติๆ ออกตามหาตัวตลอดแต่ไร้วี่แวว จึงมั่นใจว่าเกิดเรื่องร้ายแรงกับนายพรชัย อย่างแน่นอน และได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.เปลี่ยน อ.สิชล ไว้แล้วโดยแจ้งข้อสงสัยกับเจ้าหน้าที่ว่านางจรรยาหรือทัศนีย์ แฟนสาวของนายพรชัย เจ้าของร้านคาราโอเกะที่ผู้ตายทำงานอยู่ด้วยน่าจะส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของนายพรชัย เพราะทราบว่านางจรรยาหรือทัศนีย์ โดยมีมูลเหตุที่สำคัญคือเรื่องหึงหวง
หลังจากทราบความดังนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกไปเชิญตัวนางจรรยาหรือทัศนีย์ ผู้ต้องสงสัย ที่ร้าน”น้องจันทร์คาราโอเกะ” เลขที่ 230/4 หมู่ 11 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มาเค้นสอบสวนปากคำอยู่นานตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเช้า ในตอนแรกนางจรรยา ปากแข็งปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับการตายของนายพรชัย แต่เมื่อทางตำรวจสอบสวนเค้นอยู่นาน และมีพยานยืนยันว่าก่อนหายตัวไปพบนายพรชัย อยู่กับนางจรรยา และทะเลาะกันอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าภายในรถเชพโรเล็ตที่มารับตัวนายพรชัยนั้นเป็นรถของนางทัศนีย์ และพบว่าในรถนั้นมีคราบเลือดหลายจุดด้วยกัน ซึ่งผ่านการทำความสะอาดแล้วแต่ยังคงทิ้งคราบไว้อย่างชัดเจน เป็นเครื่องยืนยัน ในที่สุดนางจรรยาก็จำนนด้วยพยานหลักฐานยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายพรชัยแฟนหนุ่มนักดนตรีด้วยตนเอง เนื่องจากเกิดความแค้นที่ผู้ตายซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตนมานานแล้ว จนตนลงทุนเปิดร้านคาราโอเกะและสร้างวงดนตรีให้กับผู้ตายออกแสดงหารายได้ ต่อมาทราบว่านายพรชัย ผู้ตายพยายามจะตีตัวออกห่างและไปมีหญิงอื่น ทำให้ตนแค้นจึงก่อเหตุ
ในคืนวันเกิดเหตุตนใช้ให้ลูกน้องคนหนึ่งขับรถไปรับตัวนายพรชัยจากบ้านพักใน ต.เปลี่ยน อ.สิชล มาที่ อ.ขนอม ได้นั่งพูดคุยตกลงปัญหากันในรถคันดังกล่าวกันสองต่อสอง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตนบันดาลโทสะคว้าขวานที่เตรียมมากระหน่ำฟันที่ศีรษะนายพรชัย ไปหลายครั้ง จนนายพรชัย เสียชีวิต
ด้วยความแค้นอย่างหนักตนจึงใช้อาวุธมีดปลายแหลมเชือดคอนายพรชัย จนหลอดลมขาด ก่อนจะถอดเสื้อและกางเกงของนายพรชัย ผู้ตายจนเปลือยกายล้อนจ้อน จากนั้นใช้มีดเฉือนตัดอวัยวะเพศจนขาด จากนั้นได้ขับรถไปที่บริเวณบนเขาหัวช้างริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานีซึ่งสูงชันก่อนจะลากศพนายพรชัย ถีบโยนลงในเหวลึกเพื่ออำพรางคดี
“ยืนยันว่าทำคนเดียวทั้งหมด หลังจากถีบศพนายพรชัยทิ้งเหวลึกแล้วฉันขับรถคันดังกล่าวกลับมาที่พัก โดยนำอวัยวะเพศนายพรชัยมาด้วย จากนั้นฉันนำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดทั้งของตนและนายพรชัยไปเผาทิ้งทำลายหลักฐาน ก่อนจะตัดสินใจนำมีดและขวานเปื้อนเลือดรวมทั้งอวัยวะเพศของผู้ตายที่ตัดติดมือลงไปทิ้งในลำคลองขนอม หลังก่อเหตุฉันทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมีคนไปพบศพนายพรชัย และทางตำรวจมาจับกุมฉันดังกล่าว”นางจรรยายอมรับกับเจ้าหน้าที่
พ.ต.ท.อรุณ ร่มศรีนวล รอง ผกก.สส.สภ.ขนอม เปิดเผยว่าคดีนี้แม้ว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพว่าฆ่าผู้ตายเพียงเดียวแต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมลงมือฆ่านายพรชัยผู้ตายมากกว่า 1 คนเนื่องจากประมวลเหตุการณ์แล้วนั้นการกระทำของนางทัศนีย์ที่รับนั้นดูเหมือนว่าจะง่ายเกินไปเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน
สำหรับของกลางเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของนายพรชัยผู้ตายและของนางจรรยา ผู้ต้องหาที่อ้างว่าได้เผาไปแล้ว ตำรวจไปตรวจสอบจุดที่อ้างว่าเผายังไม่พบร่องรอยถูกเผา ผู้ต้องหาน่าจะซุกซ่อนหลักฐานไว้ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะรวมอวัยวะเพศของนายพรชัยผู้ตายตำรวจยังหาไม่เจอ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรมราช ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุรวมทั้งเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งคราบเลือดและอื่นๆ ในรถยนต์เก๋งของผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อมัดตัวผู้ต้องหาอีกชั้นต่อไปแล้ว
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.จิรพงษ์ ฝายราช พนักงานสอบสวน (ส.บ.3) ทำหน้าที่สารวัตรเวร สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพในเหวข้างเขาหัวช้าง ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี บ้านเขาหัวช้าง หมู่ 10 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.พ.ต.ท.อรุณ ร่วมศรีนวล รอง ผกก.สส. แพทย์เวร รพ.ขนอม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประจำอำเภอขนอม และกำลังตำรวจชุดสืบสวน เข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในจุดพบศพ เป็นช่วงหุบเหวลึกลาดลงไปกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องไต่ลงไปด้วยความยากลำบากก่อนที่จะถึงจุดพบศพ ซึ่งพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายฉกรรจ์ อายุประมาณ 30 - 40 ปี สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 - 4 วัน ลักษณะพองอืดส่งกลิ่นมีหนอนชอนไชบ่งชี้ว่าศพอยู่ในจุดดังกล่าวมาได้ระยะหนึ่งแล้วจนมีการวางไข่ของแมลงวัน และแมลงต่างๆ จนฟักเป็นตัวหนอน และไม่พบว่าสวมใส่เสื้อผ้าไม่พบหลักฐานใดๆ ที่พอจะระบุตัวบุคคลได้ หลังจากตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมช่วงศีรษะและใบหน้าหลายแผล บริเวณลำคอถูกเชือดลึกจนถึงกระดูกต้นคออวัยวะเพศถูกตัดหายไป
ต่อมา น.ส.ชมพู มะลิ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 6 ต.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยญาติสนิทหลายคนเข้าแสดงตัวกับ พ.ต.ท.จิระพงษ์ ฝายราช พนักงานสอบสวน เพื่อขอตรวจสอบรูปพรรณศพเนื่องจากสงสัยว่าจะเป็นศพของนายพรชัย มะลิ อายุ 36 ปี พี่ชายของตนเอง และเมื่อตรวจสอบแล้วจึงยืนยันว่าศพดังกล่าวคือนายพรชัย มะลิ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 6 ต.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ทำงานเป็นนักดนตรี และเป็นนักร้องนำวงดนตรี “น้องจันทร์” ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวเพื่อชีวิต รับงานแสดงตามร้านอาหารทั่วไปใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเล่นประจำอยู่ที่ร้าน “น้องจันทร์คาราโอเกะ” ในตัวอำเภอขนอม อีกด้วย
น.ส.ชมพู มะลิ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ต่อว่าช่วงดึกวันที่ 29 ธ.ค. 2552 ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์จำนวน 1 คนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กฉ-7502นครศรีธรรมราช มารับตัวนายพรชัย จากบ้านพักใน ต.เปลี่ยน อ.สิชล ห่างจากอำเภอขนอมไปราว 30 กม.โดยอ้างว่านางจรรยาหรือทัศนีย์ ใจสบาย อายุ 39 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะ “น้องจันทร์คาราโอเกะ” ในตัวอำเภอขนอม ซึ่งเป็นสาวที่นายพรชัยใกล้ชิดลึกซึ้งให้มารับตัว
นายพรชัยจึงเดินทางไปกับชายคนดังกล่าว และได้หายตัวไปตั้งแต่เวลานั้นจนกระทั่งพบศพ ที่ผ่านมาญาติๆ ออกตามหาตัวตลอดแต่ไร้วี่แวว จึงมั่นใจว่าเกิดเรื่องร้ายแรงกับนายพรชัย อย่างแน่นอน และได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.เปลี่ยน อ.สิชล ไว้แล้วโดยแจ้งข้อสงสัยกับเจ้าหน้าที่ว่านางจรรยาหรือทัศนีย์ แฟนสาวของนายพรชัย เจ้าของร้านคาราโอเกะที่ผู้ตายทำงานอยู่ด้วยน่าจะส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของนายพรชัย เพราะทราบว่านางจรรยาหรือทัศนีย์ โดยมีมูลเหตุที่สำคัญคือเรื่องหึงหวง
หลังจากทราบความดังนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกไปเชิญตัวนางจรรยาหรือทัศนีย์ ผู้ต้องสงสัย ที่ร้าน”น้องจันทร์คาราโอเกะ” เลขที่ 230/4 หมู่ 11 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มาเค้นสอบสวนปากคำอยู่นานตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเช้า ในตอนแรกนางจรรยา ปากแข็งปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับการตายของนายพรชัย แต่เมื่อทางตำรวจสอบสวนเค้นอยู่นาน และมีพยานยืนยันว่าก่อนหายตัวไปพบนายพรชัย อยู่กับนางจรรยา และทะเลาะกันอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าภายในรถเชพโรเล็ตที่มารับตัวนายพรชัยนั้นเป็นรถของนางทัศนีย์ และพบว่าในรถนั้นมีคราบเลือดหลายจุดด้วยกัน ซึ่งผ่านการทำความสะอาดแล้วแต่ยังคงทิ้งคราบไว้อย่างชัดเจน เป็นเครื่องยืนยัน ในที่สุดนางจรรยาก็จำนนด้วยพยานหลักฐานยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายพรชัยแฟนหนุ่มนักดนตรีด้วยตนเอง เนื่องจากเกิดความแค้นที่ผู้ตายซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตนมานานแล้ว จนตนลงทุนเปิดร้านคาราโอเกะและสร้างวงดนตรีให้กับผู้ตายออกแสดงหารายได้ ต่อมาทราบว่านายพรชัย ผู้ตายพยายามจะตีตัวออกห่างและไปมีหญิงอื่น ทำให้ตนแค้นจึงก่อเหตุ
ในคืนวันเกิดเหตุตนใช้ให้ลูกน้องคนหนึ่งขับรถไปรับตัวนายพรชัยจากบ้านพักใน ต.เปลี่ยน อ.สิชล มาที่ อ.ขนอม ได้นั่งพูดคุยตกลงปัญหากันในรถคันดังกล่าวกันสองต่อสอง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตนบันดาลโทสะคว้าขวานที่เตรียมมากระหน่ำฟันที่ศีรษะนายพรชัย ไปหลายครั้ง จนนายพรชัย เสียชีวิต
ด้วยความแค้นอย่างหนักตนจึงใช้อาวุธมีดปลายแหลมเชือดคอนายพรชัย จนหลอดลมขาด ก่อนจะถอดเสื้อและกางเกงของนายพรชัย ผู้ตายจนเปลือยกายล้อนจ้อน จากนั้นใช้มีดเฉือนตัดอวัยวะเพศจนขาด จากนั้นได้ขับรถไปที่บริเวณบนเขาหัวช้างริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานีซึ่งสูงชันก่อนจะลากศพนายพรชัย ถีบโยนลงในเหวลึกเพื่ออำพรางคดี
“ยืนยันว่าทำคนเดียวทั้งหมด หลังจากถีบศพนายพรชัยทิ้งเหวลึกแล้วฉันขับรถคันดังกล่าวกลับมาที่พัก โดยนำอวัยวะเพศนายพรชัยมาด้วย จากนั้นฉันนำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดทั้งของตนและนายพรชัยไปเผาทิ้งทำลายหลักฐาน ก่อนจะตัดสินใจนำมีดและขวานเปื้อนเลือดรวมทั้งอวัยวะเพศของผู้ตายที่ตัดติดมือลงไปทิ้งในลำคลองขนอม หลังก่อเหตุฉันทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมีคนไปพบศพนายพรชัย และทางตำรวจมาจับกุมฉันดังกล่าว”นางจรรยายอมรับกับเจ้าหน้าที่
พ.ต.ท.อรุณ ร่มศรีนวล รอง ผกก.สส.สภ.ขนอม เปิดเผยว่าคดีนี้แม้ว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพว่าฆ่าผู้ตายเพียงเดียวแต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมลงมือฆ่านายพรชัยผู้ตายมากกว่า 1 คนเนื่องจากประมวลเหตุการณ์แล้วนั้นการกระทำของนางทัศนีย์ที่รับนั้นดูเหมือนว่าจะง่ายเกินไปเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน
สำหรับของกลางเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของนายพรชัยผู้ตายและของนางจรรยา ผู้ต้องหาที่อ้างว่าได้เผาไปแล้ว ตำรวจไปตรวจสอบจุดที่อ้างว่าเผายังไม่พบร่องรอยถูกเผา ผู้ต้องหาน่าจะซุกซ่อนหลักฐานไว้ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะรวมอวัยวะเพศของนายพรชัยผู้ตายตำรวจยังหาไม่เจอ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรมราช ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุรวมทั้งเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งคราบเลือดและอื่นๆ ในรถยนต์เก๋งของผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อมัดตัวผู้ต้องหาอีกชั้นต่อไปแล้ว
