นครศรีธรรมราช - พ่อเฒ่าฆาตกรฆ่าสาวเจ้าของหมาเข้ามอบตัวกับตำรวจเมืองนครศรีธรรมราชแล้ว สารภาพบันดาลโทสะ-อ้างโดนด่าไฟแลบชนิดไม่ซ้ำคำ-สุดทนฟันไม่เลี้ยง
จากกรณีที่นายประกอบ หนูเมือง อายุ 71 ปีอยู่บ้านเลขที่ 50/13 ถนนกะโรม หมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทะเลาะวิวาทกับนางดรุณี ศรีสุขแก้ว อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านที่มีบ้านติดกัน สาเหตุเพราะนางดรุณี เลี้ยงสุนัข เห่าหอนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ จนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันนายประกอบ บันดาลโทสะ ใช้มีดพร้าฟันนางดรุณี จนศีรษะเละเสียชีวิตบนถนนทางเข้าโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต ใกล้บ้านที่พักอาศัย เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าในคดีล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค.) นายประกอบ หนูเมือง พ่อเฒ่ามือพร้อมด้วยญาติ ๆ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ และ พ.ต.ท.สมใจ บุญมรกต สอง สว.สส.สภ.เมือง เพื่อขอมอบตัวสู้คดี โดยนายประกอบให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันนางดรุณี เสียชีวิตจริงเพราะบันดาลโทสะที่ถูกนางดรุณี ด่าทออย่างสาดเสียเทเสีย
“ผมมีภรรยา 3 คน โดยซื้อห้องแถวอยู่อาศัยกับภรรยาคนที่ 3 ในขณะที่นางดรุณี ผู้ตายมาเช่าห้องพักห้องติดกันอยู่อาศัย แต่เขาเลี้ยงหมาไว้ 1 ตัว แต่ละคืนมันส่งเสียงเห่าหอนสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับครอบครัวตน และเพื่อนบ้านข้างเคียงมาตลอด ผมพูดจาขอร้องให้นำหมาตัวดังกล่าวไปเลี้ยงที่อื่น แต่นางดรุณี เขาไม่สนใจแถมยังเปิดฉากด่าทอผมอย่างสาดเสียเทเสีย ซึ่งผมพยายามอดกลั้นและอธิบายให้เขาเข้าใจว่าการอยู่รวมกันในบ้านที่เป็นห้องแถวนั้นจะต้องเข้าใจคนอื่นด้วย โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดจะต้องเห็นใจคนที่อยู่ข้างเคียงด้วย หากเป็นบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด มีอาณาเขตที่ชัดเจนคงไม่มีใครว่า “
นายประกอบ กล่าวต่อไปว่า จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าผมพยายามอธิบายขอร้องให้เขาเห็นอกเห็นใจ ให้นำหมาสุดที่รักของเขาไปเลี้ยงที่อื่น แต่เหมือนกับทุกครั้งเขาเปิดฉากด่ากราดไม่ไว้หน้า ผมจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางมาเคลียร์ปัญหา ซึ่งตำรวจก็เห็นพฤติกรรมเขาเป็นอย่างดีที่ด่าทอผมต่อหน้าตำรวจอย่างไม่เกรงใจใคร และยังบอกให้ผมทนต่อไปอีก 3 เดือนจึงจะนำหมาไปเลี้ยงที่อื่น แต่ผมยืนคำขาดว่าต้องนำหมาออกไปเลี้ยงที่อื่นทันที หากไม่ดำเนินการผมจะจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งแน่ นางดรุณี ผู้ตายจึงไปแจ้งความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
“จนในช่วงเย็นนางดรุณี ขับรถ จยย.กลับมาจากนอกบ้านเห็นผมยืนอยู่หน้าบ้านก็ไม่พุดพล่ามทำเพลงเปิดฉากด่าทอผมชนิดไม่ซ้ำคำ และยังข่มขู่ให้ผมระมัดระวังตัวจะเจอดีแน่ ผมจึงคว้ามีดพร้าออกมาข่มขู่ แทนที่นางดรุณีจะกลัวกลับเดินออกไปบนถนนชี้หน้าด่าผมหนักกว่าเดิม และยังท้าทายผมในลักษณะว่าถ้าแน่จริงให้ฟันเขาเลย ถ้าไม่ฟันมึงก็เป็นไอ้แก่หน้าตัวเมีย ผมสุดทนเลือดขึ้นหน้าบันดาลโทสะ ตรงเข้าใช้มีดพร้าฟันนางดรุณี หลายครั้งไม่ได้ดูว่าโดนตรงไหนบ้างจนนางดรุณี ล้มฟุบแน่นิ่งจมกองเลือดกลางถนน ผมจึงรีบขับรถ จยย.หลบหนีไป ก่อนจะตัดสินใจให้ญาติ ๆ พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ”
พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกการมอบตัวของนายประกอบ หนูเมือง ผู้ต้องหา จากนั้นจึงนำตัวมอบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยคดีนี้ไม่ใช่การกระทำผิดซึ่งหน้าเมื่อผู้ต้อหามามอบตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวนายประกอบผู้ต้องหา ในทางปฏิบัติในชั้นพนักงานสอบสวนนายประกอบ ผู้ต้องหาได้รับสิทธิตามกฎหมายตำรวจต้องปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ต้องประกันตัว
อย่างไรก็ตามในวันนี้ตำรวจจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในขั้นตอนดังกล่าวนายประกอบ ผู้ต้องหาต้องยื่นขอประกันตัวต่อศาลเอาเอง ส่วนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล สว.สส.สภ.เมือง กล่าวดังกล่าว
จากกรณีที่นายประกอบ หนูเมือง อายุ 71 ปีอยู่บ้านเลขที่ 50/13 ถนนกะโรม หมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทะเลาะวิวาทกับนางดรุณี ศรีสุขแก้ว อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านที่มีบ้านติดกัน สาเหตุเพราะนางดรุณี เลี้ยงสุนัข เห่าหอนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ จนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันนายประกอบ บันดาลโทสะ ใช้มีดพร้าฟันนางดรุณี จนศีรษะเละเสียชีวิตบนถนนทางเข้าโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต ใกล้บ้านที่พักอาศัย เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าในคดีล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค.) นายประกอบ หนูเมือง พ่อเฒ่ามือพร้อมด้วยญาติ ๆ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ และ พ.ต.ท.สมใจ บุญมรกต สอง สว.สส.สภ.เมือง เพื่อขอมอบตัวสู้คดี โดยนายประกอบให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันนางดรุณี เสียชีวิตจริงเพราะบันดาลโทสะที่ถูกนางดรุณี ด่าทออย่างสาดเสียเทเสีย
“ผมมีภรรยา 3 คน โดยซื้อห้องแถวอยู่อาศัยกับภรรยาคนที่ 3 ในขณะที่นางดรุณี ผู้ตายมาเช่าห้องพักห้องติดกันอยู่อาศัย แต่เขาเลี้ยงหมาไว้ 1 ตัว แต่ละคืนมันส่งเสียงเห่าหอนสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับครอบครัวตน และเพื่อนบ้านข้างเคียงมาตลอด ผมพูดจาขอร้องให้นำหมาตัวดังกล่าวไปเลี้ยงที่อื่น แต่นางดรุณี เขาไม่สนใจแถมยังเปิดฉากด่าทอผมอย่างสาดเสียเทเสีย ซึ่งผมพยายามอดกลั้นและอธิบายให้เขาเข้าใจว่าการอยู่รวมกันในบ้านที่เป็นห้องแถวนั้นจะต้องเข้าใจคนอื่นด้วย โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดจะต้องเห็นใจคนที่อยู่ข้างเคียงด้วย หากเป็นบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด มีอาณาเขตที่ชัดเจนคงไม่มีใครว่า “
นายประกอบ กล่าวต่อไปว่า จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าผมพยายามอธิบายขอร้องให้เขาเห็นอกเห็นใจ ให้นำหมาสุดที่รักของเขาไปเลี้ยงที่อื่น แต่เหมือนกับทุกครั้งเขาเปิดฉากด่ากราดไม่ไว้หน้า ผมจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางมาเคลียร์ปัญหา ซึ่งตำรวจก็เห็นพฤติกรรมเขาเป็นอย่างดีที่ด่าทอผมต่อหน้าตำรวจอย่างไม่เกรงใจใคร และยังบอกให้ผมทนต่อไปอีก 3 เดือนจึงจะนำหมาไปเลี้ยงที่อื่น แต่ผมยืนคำขาดว่าต้องนำหมาออกไปเลี้ยงที่อื่นทันที หากไม่ดำเนินการผมจะจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งแน่ นางดรุณี ผู้ตายจึงไปแจ้งความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
“จนในช่วงเย็นนางดรุณี ขับรถ จยย.กลับมาจากนอกบ้านเห็นผมยืนอยู่หน้าบ้านก็ไม่พุดพล่ามทำเพลงเปิดฉากด่าทอผมชนิดไม่ซ้ำคำ และยังข่มขู่ให้ผมระมัดระวังตัวจะเจอดีแน่ ผมจึงคว้ามีดพร้าออกมาข่มขู่ แทนที่นางดรุณีจะกลัวกลับเดินออกไปบนถนนชี้หน้าด่าผมหนักกว่าเดิม และยังท้าทายผมในลักษณะว่าถ้าแน่จริงให้ฟันเขาเลย ถ้าไม่ฟันมึงก็เป็นไอ้แก่หน้าตัวเมีย ผมสุดทนเลือดขึ้นหน้าบันดาลโทสะ ตรงเข้าใช้มีดพร้าฟันนางดรุณี หลายครั้งไม่ได้ดูว่าโดนตรงไหนบ้างจนนางดรุณี ล้มฟุบแน่นิ่งจมกองเลือดกลางถนน ผมจึงรีบขับรถ จยย.หลบหนีไป ก่อนจะตัดสินใจให้ญาติ ๆ พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ”
พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกการมอบตัวของนายประกอบ หนูเมือง ผู้ต้องหา จากนั้นจึงนำตัวมอบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยคดีนี้ไม่ใช่การกระทำผิดซึ่งหน้าเมื่อผู้ต้อหามามอบตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวนายประกอบผู้ต้องหา ในทางปฏิบัติในชั้นพนักงานสอบสวนนายประกอบ ผู้ต้องหาได้รับสิทธิตามกฎหมายตำรวจต้องปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ต้องประกันตัว
อย่างไรก็ตามในวันนี้ตำรวจจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในขั้นตอนดังกล่าวนายประกอบ ผู้ต้องหาต้องยื่นขอประกันตัวต่อศาลเอาเอง ส่วนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล สว.สส.สภ.เมือง กล่าวดังกล่าว