นครศรีธรรมราช - "เทพไท"ไม่ทิ้งลายฉะ "นช.แม้ว"จนวันส่งท้ายปี เย้ยเป็นนักธุรกิจการเมืองใจเสาะจ้อง ฟ้องคดีหมิ่นประมาทตน แต่ตัวเองยังหนีหัวซุกหัวซุนนอกประเทศ เย้ยไหนบอกไม่เคยมั่นใจในกระบวนศาลยุติธรรมไทย ลั่นปีหน้าจะทวิตตอบโต้ทุกวัน 3 มื้ออาหาร
วันนี้ (31 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบทบาททางการเมืองของตัวเองหลังจากถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นฟ้องหลังจากตั้งฉายาให้ว่า ตามความคิดเดิมนั้นปี 2553 จะลดบทบาทในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองลงเพื่อให้บรรยากาศทางการเมืองในปี 2553 ดีขึ้น แต่เมื่อถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ฟ้องดำเนินคดีเพื่อต้องการปิดปากไม่ให้แสดงความเห็นทางการเมือง เลยกลับมาทบทวนท่าทีใหม่เพราะหากลดบทบาทเท่ากับยอมจำนนท์ต่อเงื่อนไขที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการ จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ในการตอบทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยจะทวิตเป็นรายวันวันละ 3 เวลาทุกประเด็น และให้ พ.ต.ท.ทักษิณล้มเลิกความคิดที่จะเอาเรื่องคดีความมาปิดปากเพราะจะไม่สำเร็จ
การที่ทนายความได้รับมอบให้มาฟ้องตนนั้นและเรียกร้องถามหาความรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นโฆษกส่วนตัวให้กับนายกต้องชี้แจงให้ชัดๆ ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอานายอภิสิทธิ์มาเกี่ยวข้องเพราะตนยืนยันชัดว่าในฐานะส่วนตัวที่ให้ฉายาบุคคลต่างๆ เหมือนกับสื่อมวลชนและพรรคเพื่อไทยให้ฉายาคนอื่นมาแล้ว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้ไปฟ้องสื่อที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข่าวสาร และไม่ควรจับเอาสื่อเป็นตัวประกัน ถ้าจะฟ้องร้องเรื่องนี้ควรที่จะดำเนินการต่อตนเองโดยตรง ไม่ควรเฉไฉเอาบุคคลอื่นมายุ่งเกี่ยว ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเป็นสุภาพบุรุษเพียงพอ ให้ฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่มอบหมายให้ หรือมอบอำนาจให้ทนายความเที่ยวไล่ล่าคดีกับคนอื่น ในขณะที่ตัวเองหนีคดีไม่ยอมกลับประเทศ
และแปลกใจกับพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ประกาศตลอดเวลาว่าไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่วันนี้เหตุใดจึงมาฟ้องศาลในกระบวนการยุติธรรมของไทยอีก ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ แพ้คดีนี้กับตนเองอีกอย่ามากล่าวหาว่าศาล 2 มาตรฐานเหมือนกับคดีที่ผ่านมาแล้วบอกลิ่วล้อที่เป็นทนายความว่าอย่ามีพฤติกรรมเอาถุงขนม 2 ล้านไปฝากกับเจ้าหน้าที่ศาลอีก การฟ้องร้องต่อนักการเมืองด้วยกันของ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่นักการเมืองที่แท้จริงเป็นเพียงนักธุรกิจการเมือง ซึ่งมีความแตกต่างกับนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นนักการเมืองอาชีพอย่างสิ้นเชิง
“ผมได้ต่อสู้ทางการเมืองกับนายสมัครอย่างถึงพริกถึงขิงมาโดยตลอด ตอบโต้พาดพิงกันอย่างรุนแรงตลอดมานายสมัครไม่เคยฟ้องร้องแม้แต่ครั้งเดียว แต่สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเป็นคุ้งเป็นแคว ล่าสุดยังวิจารณ์นายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งว่าเป็นคุณชายสะอาด แต่ในความเห็นของผมนั้นยังดีกว่าเป็นนักโทษโสมมเหมือนกับคนบางคน วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเปรียบเหมือนกับกองปฏิกูลเดินเข้าไปชน หรือเอาเท้าเข้าไปเกี่ยวย่อมที่จะติดความสกปรกมาด้วย แต่ยังสามารถที่จะล้างทำความสะอาดได้ ผมจึงไม่กลัวที่จะตอบโต้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไป” นายเทพไทกล่าว