นครศรีธรรมราช - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยันหวัด 2009 ในหมูคุมอยู่แล้ว ไร้คนติดเชื้อเพิ่ม เตรียมรับข่าวดีไทยผลิตวัคซีนได้ 1 ใน 5 ปท.ทั่วโลก-รับเป็นไปได้ไวรัสกลายพันธ์
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการทดลองวัคซีนไข้หวัด 2009 ว่า ขณะนี้ได้ติดตามการทำลองอย่างใกล้ชิด เป็นงานที่องค์การเภสัชกรรมรับไปและเป็นการลงทุนเอง โดยมีคณะกรรมการวัคซีนระดับชาติดูแล มีการทดลองในคนแล้วมีความสำเร็จในระดับหนึ่ง ช่วงนี้ต้องรอเนื่องจากมีการใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ในการเริ่มทดลอง และเริ่มใช้จริงเป็นวัคซีนตัวใหม่ที่เป็นวัคซีนเชื้อเป็น บางประเทศในโลกที่ผลิตได้ ถ้าเราทำได้จะเป็นประเทศ 1-4 หรือ 5 ประเทศของโลกเท่านั้นที่ทำได้
“ส่วนการจัดซื้อนั้นเดือนมกราคมกลางเดือนจะฉีดกับกลุ่มเป้าหมายได้ 1 ล้านชุดมาถึงแล้ว และอีก 1 ล้านจะมาถึงราวเดือนกุมภาพันธ์ ดำเนินการได้ ประชากรไทยอีกประมาณ 50 ล้านยังไม่เป็นหวัดชนิดนี้ดังนั้น 2 ล้านวัคซีนที่จะใช้ใน 50 ล้านยังมีอีกจำนวนมาก เป้าหมายนั้นอย่างครอบคลุมประชาชนได้สัก 10 เปอร์เซ็น การนี้รัฐซื้อเองและให้บริการฟรีดังนั้นคณะอนุกรรมการระดับชาติเรื่องหวัด 2009 ที่มีพลตรีสนั่นเป็นประธาน ได้อนุมัติงบกลางสั่งซื้อวัคซีนอีกราว 8 แสนมาใช้ และกำลังอยู่ระหว่างหารือกับคณะกรรมการและองค์การเภสัชถึงความจำเป็น ซึ่งถ้าจำเป็นก็ต้องจัดซื้อเพิ่มสำรองไว้ก่อนต้องขออนุมัติสั่งเพิ่ม”
รมว.สาธารณสุขยังกล่าวถึงเรื่องของการติดเชื้อหวัด 2009 ในสุกรว่า เราได้รับช่วงต่อจากกรมปศุสัตว์ที่ควบคุมเรื่องสุกร สธ.ได้ติดตามดูแลผู้ที่ใกล้ชิดสัมผัสสุกรทั้งหมดไม่พบว่ามีการติดเชื้อในคนเลย ขณะที่มีรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่าสุกรที่ติดเชื้อนั้นหายเป็นปกติดี ยืนยันได้ว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความมั่นใจว่าการบริโภคสุกรที่ปรุงสุกนั้นไม่มีอันตรายอย่างเด็ดขาดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเราคาดการณ์อยู่แล้วและเจอจริงๆ เป็นเรื่องปกติ
“มีความเป็นไปได้ว่าจะมีกลายพันธ์ของไวรัสแต่มีการติดตามมาโดยตลอดยังไม่มีการบ่งชี้ว่าไม่มีการกลายพันธ์เราจึงมีความมั่นใจในขณะนี้”รมว.สาธารณสุขกล่าวในที่สุด
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการทดลองวัคซีนไข้หวัด 2009 ว่า ขณะนี้ได้ติดตามการทำลองอย่างใกล้ชิด เป็นงานที่องค์การเภสัชกรรมรับไปและเป็นการลงทุนเอง โดยมีคณะกรรมการวัคซีนระดับชาติดูแล มีการทดลองในคนแล้วมีความสำเร็จในระดับหนึ่ง ช่วงนี้ต้องรอเนื่องจากมีการใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ในการเริ่มทดลอง และเริ่มใช้จริงเป็นวัคซีนตัวใหม่ที่เป็นวัคซีนเชื้อเป็น บางประเทศในโลกที่ผลิตได้ ถ้าเราทำได้จะเป็นประเทศ 1-4 หรือ 5 ประเทศของโลกเท่านั้นที่ทำได้
“ส่วนการจัดซื้อนั้นเดือนมกราคมกลางเดือนจะฉีดกับกลุ่มเป้าหมายได้ 1 ล้านชุดมาถึงแล้ว และอีก 1 ล้านจะมาถึงราวเดือนกุมภาพันธ์ ดำเนินการได้ ประชากรไทยอีกประมาณ 50 ล้านยังไม่เป็นหวัดชนิดนี้ดังนั้น 2 ล้านวัคซีนที่จะใช้ใน 50 ล้านยังมีอีกจำนวนมาก เป้าหมายนั้นอย่างครอบคลุมประชาชนได้สัก 10 เปอร์เซ็น การนี้รัฐซื้อเองและให้บริการฟรีดังนั้นคณะอนุกรรมการระดับชาติเรื่องหวัด 2009 ที่มีพลตรีสนั่นเป็นประธาน ได้อนุมัติงบกลางสั่งซื้อวัคซีนอีกราว 8 แสนมาใช้ และกำลังอยู่ระหว่างหารือกับคณะกรรมการและองค์การเภสัชถึงความจำเป็น ซึ่งถ้าจำเป็นก็ต้องจัดซื้อเพิ่มสำรองไว้ก่อนต้องขออนุมัติสั่งเพิ่ม”
รมว.สาธารณสุขยังกล่าวถึงเรื่องของการติดเชื้อหวัด 2009 ในสุกรว่า เราได้รับช่วงต่อจากกรมปศุสัตว์ที่ควบคุมเรื่องสุกร สธ.ได้ติดตามดูแลผู้ที่ใกล้ชิดสัมผัสสุกรทั้งหมดไม่พบว่ามีการติดเชื้อในคนเลย ขณะที่มีรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่าสุกรที่ติดเชื้อนั้นหายเป็นปกติดี ยืนยันได้ว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความมั่นใจว่าการบริโภคสุกรที่ปรุงสุกนั้นไม่มีอันตรายอย่างเด็ดขาดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเราคาดการณ์อยู่แล้วและเจอจริงๆ เป็นเรื่องปกติ
“มีความเป็นไปได้ว่าจะมีกลายพันธ์ของไวรัสแต่มีการติดตามมาโดยตลอดยังไม่มีการบ่งชี้ว่าไม่มีการกลายพันธ์เราจึงมีความมั่นใจในขณะนี้”รมว.สาธารณสุขกล่าวในที่สุด
