นราธิวาส – สถานการณ์อุทกภัยรอบที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปรกติ สรุปความเสียหายแล้วกว่า 57 ล้านบาท มีผู้เสียชีวิต 2 คน ด้านผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนราธิวาส ยังคงเตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง เนื่องจากในทะเลยังคงมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร
วันนี้ (30 พ.ย.) ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส รายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์อุทกภัยระลอกที่ 2 ในพื้นที่ระหว่างวันที่ 16 – 28 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมาว่า
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทุกภัยในระลอกที่ 2 นี้สร้างความเสียหายรวมเป็นมูลค่า 57,337,209 บาท โดยทางจังหวัดได้ประกาศพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอในพื้นที่เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติต่อเนื่อง มีความเดือดร้อนใน 66 ตำบล 292 หมู่บ้าน 16 ชุมชน มีผู้ประสบภัย 21,036 ครัวเรือน รวม 70,004 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายวอฮะ เจ๊ะนุ อายุ 44 ปี และ ด.ช.ซามามี ยูโซ๊ะ อายุ 4 ปี
ทั้งนี้ มีบ้านเรือเสียหาย 20 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 6,020 ไร่ บ่อปลา 83 บ่อ ถนนชำรุด 128 สาย สะพานชำรุด 17 แห่ง ท่อระบายน้ำเสียหาย 12 แห่ง มัสยิดถูกน้ำท่วม 7 แห่ง น้ำท่วมสถานที่ราชการ 2 แห่ง และในปัจจุบันนี้สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเริ่มคลี่คลายสู่สภาวะปกติแล้ว
ด้านนายมณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนราธิวาส ยังคงรายงานแจ้งเตือนกลุ่มชาวประมงให้งดออกจากฝั่ง เนื่องจากในทะเลยังคงมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร เรือประมงขนาดเล็กอาจจะอับปรางได้ อีกทั้งในพื้นที่ยังคงมีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนกระจายบางแห่ง ซึ่งอาจจะทำให้บางพื้นที่มีฝนตกร้อยละ 60 อาจจะทำให้มีน้ำขังและน้ำป่าไหลหลากได้
