นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาสประชุมติดตามและเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยจากเหตุอุทกภัย ด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 13 อำเภอ กว่า 125 ล้านบาท
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายสุรพล พนัสอำพล ปลัดจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในการประชุมสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา โดยมีคณะทำงานจากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส ได้สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ 75 ตำบล 414 หมู่บ้าน 17 ชุมชน ผู้ประสบภัยทั้งหมด 33,653 ครัวเรือน 133,361 คน อพยพประชาชน 1,697 ครัวเรือน เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บ้านเรือเสียหาย 17 หลัง เสียหายทั้งหลัง 3 หลัง ปศุสัตว์จำนวน 241 ตัว สัตว์ปีก 2,997 ตัว บ่อปลา 711 ไร่ พื้นที่การเกษตร 53,767 ไร่ ถนนชำรุด 174 สาย คอสะพานและสะพานถูกน้ำท่วมขัง 15 แห่ง ท่อระบายน้ำ 6 แห่ง วัด/มัสยิด 10 แห่ง โรงเรียน 12 แห่ง และสถานที่ราชการ 3 แห่ง โดยรวมเป็นมูลค่าความเยหายประมาณ 125,832,171 บาท
ปลัดจังหวัดนราธิวาส กล่าวย้ำในที่ประชุมว่า หลังจากนี้ของให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจประชาชนที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือและเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว อีกทั้งให้เตรียมวางมาตรการในการรับมือกับเหตุอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในระลอกต่อไป เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดโดยเฉพาะกรณีการเสียชีวิต
ด้าน นายมะณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส กล่าวถึงสภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสระยะนี้ว่า ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ซึ่งจะทำให้ฝนทิ้งช่วงไปในช่วงสัปดาห์นี้ และในช่วงสัปดาห์หน้าในพื้นที่อาจจะมีฝนตกหนักลงมาอีก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยอีกระลอกในพื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ติดแนวแม่น้ำ และพื้นที่ติดแนวเชิงเขา จึงขอให้เฝ้าระวังและติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ส่วนกลุ่มประมงชายฝั่งระยะนี้ยังควรงดออกจากฝั่ง เนื่องจากในทะเลอ่าวไทยมีคลื่น ลมแรง มีน้ำหนุนจากจังหวัดอื่นเข้ามา หากออกเรืออาจจะทำให้เรือขนาดเล็กอับปรางกลางทะเลได้