ยะลา - ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดยะลาร่วมพิธีละหมาดวันตรุษอีดิลอัฎฮา ประจำปี 2552 พร้อมจับมือขออภัยซึ่งกันและกัน หากมีสิ่งใดที่ได้เกินล้วงทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจในรอบปีที่ผ่านมา และฟังการบรรยายธรรมข้อเตือนสำหรับมุสลิมที่ดี
วันนี้ (27 พ.ย.) ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดยะลา ร่วมกันทำพิธีละหมาดวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา ประจำปี 2552 อย่างเนื่องแน่นทุกมัสยิดในพื้นที่ทุกหมู่บ้านตำบลของจังหวัดยะลา และจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะเริ่มมีชาวบ้านเดินทางไปยังมัสยิดตั้งแต่ช่วงเวลา 06.30 น. ซึ่งก่อนจะเข้าพิธีละหมาดในเวลา 07.30 น.ได้มีการจับมือและกอดกันขออภัยในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน ทั้งวาจา กายและใจซึ่งกันและกันในรอบปีที่ผ่านมา เนื่องจากในวันนี้หากมีการขออภัยซึ่งกันและกันพระผู้เป็นเจ้าจะประทานอภัยให้ทั้งหมด
ขณะที่บริเวณมัสยิดบ้านหัวสะพาน สะเตง ถนนสิโรรส ในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นย่านที่มีบ้านพักข้าราชการในทุกสาขาอาชีพ ต่างได้เดินทางไปร่วมพิธีละหมาดอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมกับมีการจับมือขออภัยซึ่งกันและกันกับประชาชนโดยทั่วไปอย่างไม่มีการแบ่งชนชั้น ไม่ว่าจะจนหรือรวย หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มีเกียรติยศสูงก็ตาม เพราะมุสลิม ห้ามให้มีการแบ่งชนชั้นวรรณะอย่างเด็ดขาด
สำหรับการบรรยายธรรมหลังการละหมาดในวันอิดิลอัฏฮา หรือวันรอยอฮัจญีปีนี้ ในหัวข้อการปฏิบัติตนในแนวทางของอัลเลาะห์ ประกอบด้วย 1.ความสำคัญของการกุรบาน หรือการเชือดสัตว์พลีต่อพระองค์ในวันอีดิลอัฎฮา ซึ่งยังเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ฮารีรายากุรบาน สัตว์ที่ใช้เป็นสัตว์พลีนั้นได้แก่ อูฐ แพะ แกะ และวัว แต่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจะนิยมการเชือดวัว เป็นส่วนใหญ่
ส่วนอูฐนั้น เป็นสัตว์ไม่มีการเลี้ยงในพื้นที่จึงไม่มีการเชือดแต่อย่างใด เนื้อสัตว์ที่ได้ทำการเชือดจะแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือเพื่อนบ้าน 2.การศรัทธาต่ออัลเลาะห์ 3.การอบรมบ่มนิสัยให้กับคนในครอบครัวให้อยู่ในกรอบตามแนวทางอิสลาม และ 4.การมีคุณธรรม จริยธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก