สตูล – น้ำท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้อง และ ต้นกล้ายางพารา 32,756 ไร่ ในตำบลเกตรี ต้องจมอยู่ในกระแสน้ำเป็นวันที่ 3 ทำให้พืชผลเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ทาง อบต.ได้ตั้งศูนย์ให้ชาวเกษตรกรในพื้นที่แจ้งความจำนงความเสียหายพืชผักของชาวเกษตรกรแล้ว
วันนี้ (24 พ.ย. ) หลังจากน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้าผ่านทางหมู่บ้าน ม.1 ม.2 ม.4 ม.6 ต.เกตรี อ.เมือง จ.สตูล ทำให้บ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านได้รับความเสียหายหนัก พร้อมกับพื้นที่ของของชาวเกษตรกรที่ปลูกข้าว โดยเฉพาะข้าวในท้องนากำลังตั้งท้องพร้อมที่จะออกรวงต้องจมอยู่ใต้น้ำจำนวนมาก ซึ่งน้ำยังคงไหลผ่านเข้าไปในสวนเกษตรกรที่ปลูกต้นกล้ายางพารา และ สวนแตงกวา ข้าวโพด ในพื้นที่ 900 ไร่ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลด้วย
ขณะที่ นายอับดุลมานับ หลงหัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต. ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เกษตรกร และบ่อตกปลาของชาวบ้านทันที ในพื้นที่ 32,756 ไร่ ใน ตำบลเกตรี ทางด้านนายอับดุลละ จังแดหวา อายุ 42 เกษตรกรบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ กล่าว่า น้ำได้ไหลผ่านเข้ามาในพื้นที่ บ่อปลา และทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ได้ถูกกระแสน้ำพัดไป ซึ่งปลาที่เลี้ยงกำลังโตที่พร้อมจะขาย และเป็นบ่อปลาที่เลี้ยงผสม มีปลาดุก ปลานิล ที่เลี้ยงไว้ประมาณ 5,000 ตัว ต้องสูญเสียไปพร้อมที่ลงทุนไป ประมาณ 30,000 บาท โดยปลาที่เลี้ยงไว้เหลือเพียงแค่ 2 เดือน ก็จะจับขายได้
ทั้งนี้ นายก อบต.เกตรี กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ตำบลเกตรี ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เกษตรกร และมีผู้ทำนา ทำสวน และเลี้ยงปลากันเยอะ ในพื้นที่ 32,756 ไร่ ซึ่งบ่างส่วนได้ถูกน้ำที่ไหลเข้ามาทำให้ พื้นที่เกษตรต้องจมอยู่ใต้น้ำโดยเฉพาะ ต้นกล้ายางที่ชาวบ้านปลูกอยู่ ในพื้นที่ต้องจมอยู่ในน้ำ ประมาณ 200 ไร่ หากน้ำไม่ลดลงก็จะทำให้ต้นกล้ายาง และข้าวในนา สวนแตงกวา สวนพริก สวนข้าวโพด ต้องจมน้ำหากนานเกิน 3 วัน รากก็จะเน่าตาย โดยในวันนี้ อบต.เกตรี ได้ตั้งศูนย์ให้ชาวเกษตรกรในพื้นที่แจ้งความจำนงความเสียหายพืชผักของชาวเกษตรกร