ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ม.4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ. ยะลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ นายอับดุลการิม เด็งระกีนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดยะลา เดินทางเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองยะลา พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรที่ประสบภัย โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประสบภัยร่วมให้การต้อนรับ เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลาว่า พื้นที่ประสบเหตุอุทกภัย มีจำนวนทั้งสิ้น 8 อำเภอ 49 ตำบล 237 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 9,472 ครัวเรือน จำนวน 33,297 คน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม จำนวน 6 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 8,073 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา จำนวน 781 บ่อ สัตว์ปีก จำนวน 5,547 ตัว และสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหายอีก 1,674 ตัว ความเสียหายด้านสาธารณประโยชน์นั้นพบว่า บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน 1,117 หลัง เสียหายทั้งหลัง 3 หลัง สะพานเสียหาย 55 แห่ง ถนน 340 สาย ท่อระบายน้ำ 11 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 8 หลัง วัด และมัสยิดเสียหาย 2 แห่ง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันบรรเทาอุทกภัยและดินถล่มของทุกจังหวัด เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม และดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ โดยเบื้องต้นมีเงินสำหรับช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ในระดับจังหวัด จังหวัดละ 50 ล้านบาท ระดับอำเภออำเภอละ 1 ล้านบาท หากไม่พอผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถนำเงินงบประมาณมาใช้ได้อีก 100 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนการช่วยเหลือในระยะยาวนั้น ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์เตือนภัยเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา พร้อมขอเตือนให้ประชาชนได้ช่วยกันรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ทั้งในระดับหมู่บ้านที่มีเสียงตามสาย วิทยุชุมชน และมีสถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ และหลังจากน้ำท่วมเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ได้มอบหมายให้อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือนของราษฎรที่ได้รับความเสียหาย และจะมีการสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อจะได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีของบกลางมาแก้ไขปัญหา และปรับปรุงซ่อมแซมต่อไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวที่จังหวัดยะลานั้น หลังจากที่ก่อสร้างถนนสาย 418 ท่าสาป - ดอนยาง ได้สร้างแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรีจะมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนในพื้นที่ก่อนปีใหม่นั้น ทุกฝ่ายจะได้นำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระองค์ได้ทรงอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซับน้ำ และเป็นทางเดินของน้ำ ถูกสกัดกั้นโดยถนนสาย 418 และได้มอบหมายให้ทางราชการมาทำการศึกษา เพื่อจะทำแก้มลิง ซึ่งตรวจแล้วพบว่า เป็นจริงตามที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยในพื้นที่ดังกล่าว และหลังจากน้ำลดแล้ว รัฐบาลจะปรับเงินงบประมาณมาสนองแนวพระราชดำริ ของพระบทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อจัดทำแก้มลิงในแต่ละพื้นที่ เพื่อรองรับน้ำเมื่อมีฝนตกหนัก และน้ำไหลหลากมาจากพื้นที่ป่าเขา ซึ่งคิดว่าจะเป็นการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลาว่า พื้นที่ประสบเหตุอุทกภัย มีจำนวนทั้งสิ้น 8 อำเภอ 49 ตำบล 237 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 9,472 ครัวเรือน จำนวน 33,297 คน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม จำนวน 6 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 8,073 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา จำนวน 781 บ่อ สัตว์ปีก จำนวน 5,547 ตัว และสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหายอีก 1,674 ตัว ความเสียหายด้านสาธารณประโยชน์นั้นพบว่า บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน 1,117 หลัง เสียหายทั้งหลัง 3 หลัง สะพานเสียหาย 55 แห่ง ถนน 340 สาย ท่อระบายน้ำ 11 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 8 หลัง วัด และมัสยิดเสียหาย 2 แห่ง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันบรรเทาอุทกภัยและดินถล่มของทุกจังหวัด เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม และดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ โดยเบื้องต้นมีเงินสำหรับช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ในระดับจังหวัด จังหวัดละ 50 ล้านบาท ระดับอำเภออำเภอละ 1 ล้านบาท หากไม่พอผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถนำเงินงบประมาณมาใช้ได้อีก 100 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนการช่วยเหลือในระยะยาวนั้น ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์เตือนภัยเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา พร้อมขอเตือนให้ประชาชนได้ช่วยกันรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ทั้งในระดับหมู่บ้านที่มีเสียงตามสาย วิทยุชุมชน และมีสถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ และหลังจากน้ำท่วมเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ได้มอบหมายให้อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือนของราษฎรที่ได้รับความเสียหาย และจะมีการสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อจะได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีของบกลางมาแก้ไขปัญหา และปรับปรุงซ่อมแซมต่อไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวที่จังหวัดยะลานั้น หลังจากที่ก่อสร้างถนนสาย 418 ท่าสาป - ดอนยาง ได้สร้างแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรีจะมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนในพื้นที่ก่อนปีใหม่นั้น ทุกฝ่ายจะได้นำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระองค์ได้ทรงอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซับน้ำ และเป็นทางเดินของน้ำ ถูกสกัดกั้นโดยถนนสาย 418 และได้มอบหมายให้ทางราชการมาทำการศึกษา เพื่อจะทำแก้มลิง ซึ่งตรวจแล้วพบว่า เป็นจริงตามที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยในพื้นที่ดังกล่าว และหลังจากน้ำลดแล้ว รัฐบาลจะปรับเงินงบประมาณมาสนองแนวพระราชดำริ ของพระบทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อจัดทำแก้มลิงในแต่ละพื้นที่ เพื่อรองรับน้ำเมื่อมีฝนตกหนัก และน้ำไหลหลากมาจากพื้นที่ป่าเขา ซึ่งคิดว่าจะเป็นการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง