ยะลา – ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) และคณะเดินทางมาเยี่ยมอาการเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย ร 15223 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ ที่ซุกซ่อนวัตถุระเบิด แล้วได้นำมาจอดไว้ริมถนนข้างศาลาที่พัก ที่บ้านควน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ที่ผ่านมา
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ตึกไอซียู (ICU) และ ตึกศัลยกรรมชาย อาคารโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย ร 15223 หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 12 (ฉก.12 อ.รามัน) ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ ที่ซุกซ่อนวัตถุระเบิด แล้วได้นำมาจอดไว้ริมถนนข้างศาลาที่พัก หมู่ที่ 5 บ้านควน ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา ในขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 10 นาย ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับผ่านมา คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดขึ้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 นาย
โดย พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) และคณะ ได้เข้าเยี่ยม ส.อ.สมพงษ์ ดอรอรัมย์ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการน่าเป็นห่วง แพทย์ต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู พร้อมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้จำนวนหนึ่ง จากนั้นได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ของ ส.ท.วัชรากร อินศฤงคาร อายุ 22 ปี มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณมือขวา และ จ.ส.อ.เทอดทอง แก้วทอง อายุ 45 ปี มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณแขนทั้งสองข้าง ซึ่งทั้งสองนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วน ส.อ.ภาสกร มีพันธ์ อายุ 27 ปี และ จ.ส.อ.สันติ อ่วมเสงี่ยม อายุ 33 ปี แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวว่า ในการดูแลเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ทางกองทัพบกมีระเบียบและข้อปฏิบัติที่ชัดเจนว่าหากมีการเจ็บป่วย ต้องมีการให้ความช่วยเหลือ ส่วน พตท.จะเป็นการช่วยเหลือในขั้นต้น ดูแลในเรื่องของการรักษาพยาบาลในพื้นที่ การให้เงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้ได้รับบาดเจ็บที่มาเฝ้าอาการบาดเจ็บ สำหรับกลุ่มคนร้ายมักใช้ช่วงที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมก่อเหตุร้ายนั้น
ทาง พตท.ได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลประชาชนในเรื่องน้ำท่วม และ เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต และ ทรัพย์สินควบคู่ไปด้วย ซึ่งมีการวางมาตรการอย่างรัดกุมแล้ว ส่วนในช่วงใกล้เทศกาลวันรายอฮัจยี ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมนั้น ทุกๆ เทศกาลที่มีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น ตนเองมีการกำชับ และ มีแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่แล้ว แต่คงไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ คาดว่า จะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน