ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จังหวัดสงขลา ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้วทั้ง 16 อำเภอ “มาร์ค” สายตรง “ถาวร” เร่งป้องกันและช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมแผนตั้งรับ-เยียวยาประชาชน จังหวัดละ 100 ล้านบาท ห่วงพื้นที่หาดใหญ่น้ำอาจหนุนท่วมคืนนี้ พบล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (22 พ.ย.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เทศบาลนครหาดใหญ่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในพื้นที่รอบนอกตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อรับทราบสถานการณ์น้ำในจ.สงขลา พร้อมวางแผนรับมือสถานการณ์น้ำท่วมเป็นการด่วนหลังจากที่ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำ ร.1 เริ่มเอ่อล้นตลิ่งและแก้มลิงรับน้ำรอบตัวเมืองหาดใหญ่ทุกแห่งไม่สามารถรองรับน้ำได้แล้ว
หลังจากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 3-4 วัน ล่าสุด ปริมาณน้ำในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ทำให้ปริมาณน้ำโดยรวมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ขณะนี้อยู่ในสภาวะเฝ้าระวัง (ธงเหลือง) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งน้อยกว่า 1.50 เมตร ให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายของขึ้นสู่ที่สูง
โดยเฉพาะจุดเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในกรณีเหตุน้ำล้นตลิ่งคลองอู่ตะเภา จำนวน 4 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าวัดท่าเคียน บริเวณหมู่บ้านสินไพบูลย์ (บางหัก) หลังวัดหาดใหญ่ใน (บางแฟบ) บริเวณชุมชนจันทร์วิโรจน์ (หลังที่ทำการตำรรวจชุมชน)
ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาต่ำกว่าตลิ่ง 1.20 ม. คลอง ร.1 ต่ำกว่าตลิ่ง 80 ซม. และคลองเตย ต่ำกว่าตลิ่ง 2 ม.ซึ่งหากมีฝนตกต่อเนื่องอีกต่อไป คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งไม่สามารถที่จะระบายน้ำได้ทัน อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองหาดใหญ่ได้
ส่งผลให้วันนี้ (22 พ.ย.) ที่เทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย พร้อม นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้ร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 6 ตำบล เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำท่วมรอบๆ พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ซึ่งทุกฝ่ายเป็นห่วงว่าในคืนนี้น้ำอาจจะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ภายในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่บางส่วนเช่นหาดใหญ่ใน
รวมถึงในพื้นที่รอบนอกเช่น ต.คอหงส์ ต.คลองแห ต.ควนลัง ต.บ้านพรุง เนื่องจากน้ำจากอำเภอต่างๆ ไหลเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาเริ่มล่าช้าและมีภาวะน้ำทะเลตีกลับและหนุนเข้าท่วมพื้นที่ท้ายน้ำ เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำในทะเลสาบสงขลาอยู่ในภาวะอิ่มตัวเพราะต้องรับน้ำทั้งจากพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์สายตรงถึง นายถาวร เสนเนียม เพื่อสอบถามสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สงขลา ด้วยความเป็นห่วงและให้ทุกหน่วยงานเร่งหามาตรการป้องกันน้ำท่วมรวมทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งในส่วนของรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจังหวัดละ 50 ล้านบาท และสำรองไว้อีก 50 ล้านบาท และหากพบว่าตำบลต่างๆ ที่เดือดร้อนไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ทางรัฐบาลจะทำการเสนอต่อ ครม.เพื่ออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป
สำหรับแผนการรับมือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้น แบ่งออกเป็น 1.แผนการป้องกัน โดยทางการต้องเตรียมเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านได้อย่างเต็มที่ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน ถุงกั้นน้ำ เป็นต้น 2.แผนการเยียวยา ทางรัฐบาลอนุมัติเงินให้ในแต่ละจังหวัด 50 ล้านบาท ในเบื้องต้น โดยให้กระจายไปตามอำเภอและแต่ละตำบล หากพื้นที่ใดยังประสบความลำบาก ให้ประสานไปยังทางทาง อบต.อบจ.หรือเทศบาล เพื่อรับการแก้ไขปัญหาต่อไป 3.แผนเยียวยาทางด้านสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน ให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เจ็บไข้ ได้ป่วย โดยทางรัฐาบลได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาโรคภัยไข้เจ็บที่มาจากอุทกภัย
โดยมาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาและเทศบาลนครหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งสนับสนุนเครื่องจักรและเครื่องยังชีพให้กับประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย อีกทั้ง ย้ำให้พื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมเร่งสำรวจความเสียหายซึ่งตนจะนำเสนอ ครม.เพื่อของบประมาณมาช่วยเหลือทั้งโครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนที่เสียหาย
ทางด้าน นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้มีการประกาศให้พื้นที่ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา เป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้วพร้อมกับตั้งงบประมาณให้ทั้ง 16 อำเภอๆ ละ 1 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะเครื่องยังชีพในเบื้องต้นและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนและจากภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และได้มีการสั่งปิดน้ำตกแล้วจำนวน 4 แห่ง
อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) หากพบว่าท้องฟ้าเปิดทางหน่วยงานราชการจะนำเฮลิคอปเตอร์ออกสำรวจ พื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายโดยรวม ซึ่งนายถาวรได้กำชับให้ทางศูนย์ดูแลเพื่อบรรเทาทุกข์ร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ที่จะต้องดูแลรวมไปถึงเรื่องอาหาร ถุงยังชีพ และสาธารณสุขขั้นพื้นฐานต่างๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย คือ ด.ช.ธนกร รอดประชุม อายุ 2 ขวบ 3 เดือน ชาว ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง เนื่องจากถูกน้ำพัดพาระหว่างลงเล่นน้ำ และ นายเพิ่ม สุขทร อายุ 78 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อดาน อ.สทิงพระ เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุเดินตกลงไปในสระน้ำประปาของหมู่บ้าน