นครศรีธรรมราช - จ่าสิบเอกทหารปืนใหญ่ทัพภาค 4 เครียดควบปิ๊คอัพตามล่าอดีตเมียหลังหย่าได้แค่ 10 วัน เจอนั่งร้านค้าแถวบ้านพักปรี่เข้าไปหาชักปืนจ่อยิงตายคาที่ต่อหน้าเพื่อนทหารกระสุนแฉลบเจ็บด้วย
วันนี้ (21 พ.ย.) พ.ต.ท.ไพรัช ทองฉิม สว.เวรสอบสวน สภ.ย่อยปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ “วชิรา” กองร้อยสารวัตรทหาร มทบ.41 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 อ.เมือง ว่ามีเหตุการณ์ฆ่าตายจุดเกิดอยู่ในย่านบ้านพักทหารกองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 105 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.วิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.สส. แพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราช เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจเข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นเรือนแถวบ้านพักทหารชั้นประทวน สังกัด ป.พัน 105 หรือกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 105 เลขที่ 283/816 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ด้านหน้าดัดแปลงเป็นร้านค้าของชำ มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในหน่วยที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร มทบ.41 รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้วพร้อมทั้งส่งมอบตัว จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ เกียรติเลขา อายุ 49 ปี ทหารสังกัด ป.พัน 105 ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด .357 ที่ใช้ก่อเหตุ ท่ามกลางครอบครัวของทหาร และเพื่อนทหารที่มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก
ส่วนจุดเกิดเหตุนั้นเป็นม้านั่งหินขัดหน้าร้านดังกล่าวพบศพนางดวงจันทร์ จีนชิว อายุ 42 ปี อยู่ 346/8 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนคว่ำหน้าในชุดเสื้อสีชมพู กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าบริเวณท้ายทอยทะลุคาง 1 นัด แก้มขวา 1 นัด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือ จ.ส.อ.กวี ญาตินงคราญ อายุ 49 ปี ทหาร ป.พัน 105 เช่นกันกระสุนได้แฉลบถูกขาขวาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการรวบรวมข้อมูลทราบว่านางดวงจันทร์เดิมเป็นหญิงม่ายมีลูกมาแล้ว 2 คนก่อนที่จะมาอยู่กินกับ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ มาได้นานนับปีแล้ว แต่เมื่อราว 10 วันที่ผ่านมานางดวงจันทร์ ผู้ตายมีปัญหากับ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์อย่างรุนแรงจนถึงขั้นหย่าร้างด้วยการจดทะเบียนหย่าอย่างเป็นทางการกับ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ สามีเนื่องจากความระหองระแหงจากเรื่องภายในครอบครัว และก่อนเกิดไม่ถึง 1 ช.ม.นางดวงจันทร์ได้มาที่ร้านดังกล่าวก่อนนั่งพูดคุยกับ จ.ส.อ.กวี บริเวณหน้าบ้าน
จนกระทั่ง จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ขับรถสองแถวรับจ้างสายค่ายวชิราวุธ-สนามหน้าเมือง ซึ่งเป็นการหารายได้พิเศษของ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ เมื่อมาถึงหน้าเรือนแถวดังกล่าวเห็นนางดวงจันทร์นั่งอยู่ จึงหยุดรถและลงจากรถเดินปรี่เข้าไปหานางดวงจันทร์ก่อนชักปืนขนาด .357 ออกมาจ่อยิงนางดวงจันทร์เสียชีวิตทันที โดยที่ จ.ส.อ.กวีพยายามเข้าห้ามแต่ไม่ทันกระสุนยังได้แฉลบถูก จ.ส.อ.กวีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยด้วย ก่อนที่จะมีการแจ้งสารวัตรทหารมาคุมตัว จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ไว้ได้โดยที่ไม่มีการขัดขืนหรือพยายามหลบหนีแต่อย่างใด
พ.ต.ท.ไพรัช ทองฉิม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ย่อยปากพูน อ.เมืองเจ้าของคดีเปิดเผยว่าในทางคดีนั้นได้ควบคุมตัว จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งยังไม่ได้มีการสอบปากคำใดๆ เนื่องจาก จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ยังมีอาการเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่รวบรวมข้อมูลจากพยานที่เห็นเหตุการณ์นั้นต่างยืนยันว่า จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ เป็นคนก่อเหตุ และกระสุนยังแฉลบไปโดนเพื่อนทหารที่พยายามเข้าห้ามได้รับบาดเจ็บ
“สาเหตุนั้นสรุปได้เบื้องต้นว่ามาจากปัญหาภายในครอบครัวจนกระทั่งมีการหย่าร้างกันไปเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา แต่เมื่อ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ มาเจอกับ นางดวงจันทร์ อีกครั้งจึงอาจทำให้เกิดความโกรธแค้นบางอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ใช้อาวุธมาก่อเหตุในที่สุด” พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าว
วันนี้ (21 พ.ย.) พ.ต.ท.ไพรัช ทองฉิม สว.เวรสอบสวน สภ.ย่อยปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ “วชิรา” กองร้อยสารวัตรทหาร มทบ.41 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 อ.เมือง ว่ามีเหตุการณ์ฆ่าตายจุดเกิดอยู่ในย่านบ้านพักทหารกองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 105 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.วิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.สส. แพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราช เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจเข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นเรือนแถวบ้านพักทหารชั้นประทวน สังกัด ป.พัน 105 หรือกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 105 เลขที่ 283/816 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ด้านหน้าดัดแปลงเป็นร้านค้าของชำ มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในหน่วยที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร มทบ.41 รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้วพร้อมทั้งส่งมอบตัว จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ เกียรติเลขา อายุ 49 ปี ทหารสังกัด ป.พัน 105 ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด .357 ที่ใช้ก่อเหตุ ท่ามกลางครอบครัวของทหาร และเพื่อนทหารที่มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก
ส่วนจุดเกิดเหตุนั้นเป็นม้านั่งหินขัดหน้าร้านดังกล่าวพบศพนางดวงจันทร์ จีนชิว อายุ 42 ปี อยู่ 346/8 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนคว่ำหน้าในชุดเสื้อสีชมพู กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าบริเวณท้ายทอยทะลุคาง 1 นัด แก้มขวา 1 นัด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือ จ.ส.อ.กวี ญาตินงคราญ อายุ 49 ปี ทหาร ป.พัน 105 เช่นกันกระสุนได้แฉลบถูกขาขวาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการรวบรวมข้อมูลทราบว่านางดวงจันทร์เดิมเป็นหญิงม่ายมีลูกมาแล้ว 2 คนก่อนที่จะมาอยู่กินกับ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ มาได้นานนับปีแล้ว แต่เมื่อราว 10 วันที่ผ่านมานางดวงจันทร์ ผู้ตายมีปัญหากับ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์อย่างรุนแรงจนถึงขั้นหย่าร้างด้วยการจดทะเบียนหย่าอย่างเป็นทางการกับ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ สามีเนื่องจากความระหองระแหงจากเรื่องภายในครอบครัว และก่อนเกิดไม่ถึง 1 ช.ม.นางดวงจันทร์ได้มาที่ร้านดังกล่าวก่อนนั่งพูดคุยกับ จ.ส.อ.กวี บริเวณหน้าบ้าน
จนกระทั่ง จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ขับรถสองแถวรับจ้างสายค่ายวชิราวุธ-สนามหน้าเมือง ซึ่งเป็นการหารายได้พิเศษของ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ เมื่อมาถึงหน้าเรือนแถวดังกล่าวเห็นนางดวงจันทร์นั่งอยู่ จึงหยุดรถและลงจากรถเดินปรี่เข้าไปหานางดวงจันทร์ก่อนชักปืนขนาด .357 ออกมาจ่อยิงนางดวงจันทร์เสียชีวิตทันที โดยที่ จ.ส.อ.กวีพยายามเข้าห้ามแต่ไม่ทันกระสุนยังได้แฉลบถูก จ.ส.อ.กวีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยด้วย ก่อนที่จะมีการแจ้งสารวัตรทหารมาคุมตัว จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ไว้ได้โดยที่ไม่มีการขัดขืนหรือพยายามหลบหนีแต่อย่างใด
พ.ต.ท.ไพรัช ทองฉิม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ย่อยปากพูน อ.เมืองเจ้าของคดีเปิดเผยว่าในทางคดีนั้นได้ควบคุมตัว จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งยังไม่ได้มีการสอบปากคำใดๆ เนื่องจาก จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ ยังมีอาการเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่รวบรวมข้อมูลจากพยานที่เห็นเหตุการณ์นั้นต่างยืนยันว่า จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ เป็นคนก่อเหตุ และกระสุนยังแฉลบไปโดนเพื่อนทหารที่พยายามเข้าห้ามได้รับบาดเจ็บ
“สาเหตุนั้นสรุปได้เบื้องต้นว่ามาจากปัญหาภายในครอบครัวจนกระทั่งมีการหย่าร้างกันไปเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา แต่เมื่อ จ.ส.อ.เกียรติศักดิ์ มาเจอกับ นางดวงจันทร์ อีกครั้งจึงอาจทำให้เกิดความโกรธแค้นบางอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ใช้อาวุธมาก่อเหตุในที่สุด” พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าว
