สตูล - สภาส่งเสริมการค้าเขตปกครองตนเองเมืองหนิงเซียะ และผู้แทนของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อป้อนและกระจายสินค้า “รังนก” ของจังหวัดสตูล เนื่องจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องการสินค้าจากประเทศไทยจำนวน 20 ตันต่อสัปดาห์
วันนี้ (19 พ.ย.) นางวนิดา อรุโณทัย พาณิชย์จังหวัดสตูล กล่าวว่า สภาส่งเสริมการค้าเขตปกครองตนเองเมืองหนิงเซียะและผู้แทนของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางมาประชุมกำหนดแนวทางการร่วมมือทางการค้า ในวันที่ 19 พ.ย.2552 ณ โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมุ่งจัดตั้งศูนย์กลางสินค้าหนิงเซียะ ณ IMT-GT PLAZA หาดใหญ่
ทั้งนี้ เพื่อรองรับสินค้าจากเมืองหนิงเซียะเข้ามาในประเทศไทย อาทิ ผลแอปเปิล องุ่น เก๋ากี่ ลูกพลับจีน เนื้อแพะ ไวน์ และการจัดซื้อสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด แก้วมังกร เงาะ และของตกแต่งบ้าน เพื่อป้อนศูนย์กระจายสินค้าไทยให้มีการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมืองหนิงเซียะต้องการปริมาณสินค้าจากไทยจำนวน 20 ตันต่อสัปดาห์
โดยจะรวบรวมสินค้าดังกล่าวจาก 14 จังหวัดใต้ ส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าไทย ณ เมืองหนิงเซียะ ซึ่งหอการค้า จ.สงขลา จะเป็นแกนหลักในการต้อนรับคณะผู้แทนการค้าเมืองหนิงเซียะ โดยหอการค้าจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้รับประสานจัดหาสินค้าแต่ละประเภท ที่เป็นต้องการของเมือง หนิงเซียะ ซึ่งหอการค้าจังหวัดสตูลรับผิดชอบสินค้า “รังนก” และในอนาคตอาจมีการขยายประเภทสินค้าและบริการให้แต่ละหอการค้าจังหวัดได้ดูแลต่อไป
นายสมชาย ตันติ์ศรีสกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล กล่าวว่า ผศ.ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ ผช.รัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะหอการค้า 14 จังหวัดภาคใต้ พบปะและลงนามใน MOU กับสภาส่งเสริมการค้าหนิงเซียะและเปิดศูนย์กระจายสินค้าไทย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา
สำหรับการลงนาม ใน MOU ครั้งนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะขยายกรอบความร่วมมือในการส่งสินค้าออก และนำเข้าสินค้าระหว่างกัน พร้อมกำหนดให้มีคณะผู้แทนการค้าแลกเปลี่ยนในการเยือน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ อันก้าวไปสู่การเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน
สำหรับสินค้า “รังนกบ้าน” ที่หอการค้าจังหวัดสตูลรับผิดชอบในการจัดหาจาก 14 ภาคใต้ เพื่อส่งไปจำหน่ายนั้น คาดว่ามีผลผลิตปริมาณรังนกบ้านประมาณ 2.000 กิโลกรัม/เดือน เฉพาะ จ.สตูล มีผลผลิตประมาณ 100 กิโลกรัม/เดือน ส่วนราคาที่จำหน่ายนั้น จะเจรจาในรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งรังนกบ้าน มีการทำกันมาก อ.เมืองสตูล และ อ.ละงู เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับชายฝั่งทะเล
ในอนาคตจะมีการขยายการเลี้ยงเพื่อเอารังนกมากขึ้น ซึ่งนักธุรกิจหลายรายให้ความสนใจและพร้อมที่จะลงทุนธุรกิจรังนกมากยิ่งขึ้น นอกจากรังนกแล้ว จ.สตูล ยังมีสินค้าที่ลือชื่อ เช่น อาหารปลากระป๋อง ยางอัดแท่ง และผลไม้ โดยเฉพาะลองกอง ซึ่งหากมีผลผลิตมากๆ เกินความต้องการของตลาดภายในจังหวัดแล้ว ราคาจะตกต่ำ ซึ่งหากเส้นทางการค้าเปิดไปยังเมืองหมิงเซียะได้ผล ต่อไปผลผลิตลองกองราคาจะไม่ตกต่ำจนชาวสวนต้องเททิ้งต่อไป
ประธานหอการค้าจังหวัดสตูลกล่าวอีกว่า ในวันประชุมเจรจาธุรกิจร่วมกับสภาส่งเสริมการค้าเขตปกครองตนเองเมืองหนิงเซียะที่ จ.สงขลานั้น หอการค้าจังหวัดสตูลได้นำ “รังนกบ้าน” ทั้ง 3 เกรดให้นักธุรกิจหนิงเซียะชิมด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจะทำการค้าร่วมกัน
วันนี้ (19 พ.ย.) นางวนิดา อรุโณทัย พาณิชย์จังหวัดสตูล กล่าวว่า สภาส่งเสริมการค้าเขตปกครองตนเองเมืองหนิงเซียะและผู้แทนของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางมาประชุมกำหนดแนวทางการร่วมมือทางการค้า ในวันที่ 19 พ.ย.2552 ณ โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมุ่งจัดตั้งศูนย์กลางสินค้าหนิงเซียะ ณ IMT-GT PLAZA หาดใหญ่
ทั้งนี้ เพื่อรองรับสินค้าจากเมืองหนิงเซียะเข้ามาในประเทศไทย อาทิ ผลแอปเปิล องุ่น เก๋ากี่ ลูกพลับจีน เนื้อแพะ ไวน์ และการจัดซื้อสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด แก้วมังกร เงาะ และของตกแต่งบ้าน เพื่อป้อนศูนย์กระจายสินค้าไทยให้มีการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมืองหนิงเซียะต้องการปริมาณสินค้าจากไทยจำนวน 20 ตันต่อสัปดาห์
โดยจะรวบรวมสินค้าดังกล่าวจาก 14 จังหวัดใต้ ส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าไทย ณ เมืองหนิงเซียะ ซึ่งหอการค้า จ.สงขลา จะเป็นแกนหลักในการต้อนรับคณะผู้แทนการค้าเมืองหนิงเซียะ โดยหอการค้าจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้รับประสานจัดหาสินค้าแต่ละประเภท ที่เป็นต้องการของเมือง หนิงเซียะ ซึ่งหอการค้าจังหวัดสตูลรับผิดชอบสินค้า “รังนก” และในอนาคตอาจมีการขยายประเภทสินค้าและบริการให้แต่ละหอการค้าจังหวัดได้ดูแลต่อไป
นายสมชาย ตันติ์ศรีสกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล กล่าวว่า ผศ.ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ ผช.รัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะหอการค้า 14 จังหวัดภาคใต้ พบปะและลงนามใน MOU กับสภาส่งเสริมการค้าหนิงเซียะและเปิดศูนย์กระจายสินค้าไทย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา
สำหรับการลงนาม ใน MOU ครั้งนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะขยายกรอบความร่วมมือในการส่งสินค้าออก และนำเข้าสินค้าระหว่างกัน พร้อมกำหนดให้มีคณะผู้แทนการค้าแลกเปลี่ยนในการเยือน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ อันก้าวไปสู่การเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน
สำหรับสินค้า “รังนกบ้าน” ที่หอการค้าจังหวัดสตูลรับผิดชอบในการจัดหาจาก 14 ภาคใต้ เพื่อส่งไปจำหน่ายนั้น คาดว่ามีผลผลิตปริมาณรังนกบ้านประมาณ 2.000 กิโลกรัม/เดือน เฉพาะ จ.สตูล มีผลผลิตประมาณ 100 กิโลกรัม/เดือน ส่วนราคาที่จำหน่ายนั้น จะเจรจาในรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งรังนกบ้าน มีการทำกันมาก อ.เมืองสตูล และ อ.ละงู เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับชายฝั่งทะเล
ในอนาคตจะมีการขยายการเลี้ยงเพื่อเอารังนกมากขึ้น ซึ่งนักธุรกิจหลายรายให้ความสนใจและพร้อมที่จะลงทุนธุรกิจรังนกมากยิ่งขึ้น นอกจากรังนกแล้ว จ.สตูล ยังมีสินค้าที่ลือชื่อ เช่น อาหารปลากระป๋อง ยางอัดแท่ง และผลไม้ โดยเฉพาะลองกอง ซึ่งหากมีผลผลิตมากๆ เกินความต้องการของตลาดภายในจังหวัดแล้ว ราคาจะตกต่ำ ซึ่งหากเส้นทางการค้าเปิดไปยังเมืองหมิงเซียะได้ผล ต่อไปผลผลิตลองกองราคาจะไม่ตกต่ำจนชาวสวนต้องเททิ้งต่อไป
ประธานหอการค้าจังหวัดสตูลกล่าวอีกว่า ในวันประชุมเจรจาธุรกิจร่วมกับสภาส่งเสริมการค้าเขตปกครองตนเองเมืองหนิงเซียะที่ จ.สงขลานั้น หอการค้าจังหวัดสตูลได้นำ “รังนกบ้าน” ทั้ง 3 เกรดให้นักธุรกิจหนิงเซียะชิมด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจในการจะทำการค้าร่วมกัน
