กระบี่- เจ้าหน้าที่ยึดคืนป่าชายเลน บ้านอ่าวน้ำเมา หลังเข้าตรวจสอบไม่พบเจ้าของแสดงสิทธิ์
จากกรณีที่ได้มีชาวบ้านหมู่ที่ 6 บ้านอ่าวน้ำเมา ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่ามีนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าชายเลนโดยการนำเอารถแบ็กโฮเข้าไปปรับพื้นที่พร้อมนำดินมาถมเพื่อปรับพื้นที่ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (18 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าชายเลนที่ 26 (กระบี่ ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์คุ้มครองป่าชายเลนที่ 7 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณบ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ที่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ภายหลังชาวบ้านร้องเรียนว่า มีการบุกรุกถมที่ป่ายชายเลนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยขณะเข้าทำการตรวจสอบไม่พบเครื่องจักรอยู่ในพื้นที่ และไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
นายจรัญ นุ่นสังข์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าชายเลนที่ 26 (กระบี่ ) กล่าวภายหลังตรวจสอบ ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าชายเลน พื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างป่าสงวนแห่งชาติ และ ป่าไม้ พ.ศ.2484 มีทั้งหมด 9 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ สงวนแห่งชาติ 1 ไร่ และอีก 8 ไร่อยู่นอกเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ โดยบริเวณที่มีการบุกรุกทั้งหมดมีอยู่ ประมาณ 7 ไร่ มีการนำรถแคโฮขุดทำลายต้นโกงกาง และนำดินมาถมเพื่อปรับพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบในพื้นที่ไม่พบเครื่องจักรอยู่ในพื้นที่ และไม่พบตัวผู้กระทำผิด หรือมีเจ้าของมาแสดงเอกสารสิทธิ์แต่อย่างใด
หลังจากนี้ ก็จะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเข้ายึดพื้นที่คืนโดยจะนำป้ายป่าสงวนและป่า 2484 มาปักไว้ ส่วนการบุกรุกดังกล่าว เข้าข่าย กระทำผิดพร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ฐานก่นสร้าง แผ้วถาง ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 ฐานยึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะได้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
จากกรณีที่ได้มีชาวบ้านหมู่ที่ 6 บ้านอ่าวน้ำเมา ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่ามีนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าชายเลนโดยการนำเอารถแบ็กโฮเข้าไปปรับพื้นที่พร้อมนำดินมาถมเพื่อปรับพื้นที่ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (18 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าชายเลนที่ 26 (กระบี่ ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์คุ้มครองป่าชายเลนที่ 7 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณบ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ที่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ภายหลังชาวบ้านร้องเรียนว่า มีการบุกรุกถมที่ป่ายชายเลนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยขณะเข้าทำการตรวจสอบไม่พบเครื่องจักรอยู่ในพื้นที่ และไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
นายจรัญ นุ่นสังข์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าชายเลนที่ 26 (กระบี่ ) กล่าวภายหลังตรวจสอบ ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าชายเลน พื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างป่าสงวนแห่งชาติ และ ป่าไม้ พ.ศ.2484 มีทั้งหมด 9 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ สงวนแห่งชาติ 1 ไร่ และอีก 8 ไร่อยู่นอกเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ โดยบริเวณที่มีการบุกรุกทั้งหมดมีอยู่ ประมาณ 7 ไร่ มีการนำรถแคโฮขุดทำลายต้นโกงกาง และนำดินมาถมเพื่อปรับพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบในพื้นที่ไม่พบเครื่องจักรอยู่ในพื้นที่ และไม่พบตัวผู้กระทำผิด หรือมีเจ้าของมาแสดงเอกสารสิทธิ์แต่อย่างใด
หลังจากนี้ ก็จะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเข้ายึดพื้นที่คืนโดยจะนำป้ายป่าสงวนและป่า 2484 มาปักไว้ ส่วนการบุกรุกดังกล่าว เข้าข่าย กระทำผิดพร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ฐานก่นสร้าง แผ้วถาง ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 ฐานยึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะได้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป