กระบี่ - ผู้ประกอบการเรือแคนนูบ้านบ่อท่อ จังหวัดกระบี่ เฮ! หลังอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณียอมชะลอการจัดเก็บค่าธรรมเนียม นักท่องเที่ยวบริเวณถ้าผีหัวโต-ถ้ำลอดแล้ว หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้
นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากรณีที่ผู้ประกอบการเรือแคนูบ้านบ่อท่อ ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้ยื่นข้อเสนอให้อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ชะลอการเก็บค่าธรรมเข้าชมพื้นที่อุทยานฯ คือ บริเวณถ้ำผีหัวโต และถ้ำลอด ม.6 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ในอัตรานักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2552
อุทยานฯ ก็ยืนยันที่จะดำเนินการจัดเก็บตามระเบียบ ทำให้สร้างความไม่พอใจให้ผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากมีการจัดเก็บจะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบในช่วงภาวะวิฤตเศรษฐกิจ ที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถตกลงกันได้
โดยทางผู้ประกอบการเรือแคนนู และทางอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา เพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทางอุทยานฯ ยอมที่จะชะลอการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป โดยมีเงื่อนไขว่า ช่วงระยะเวลา 6 เดือนหลังจากนี้
อุทยานฯ จะจัดเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการเรือแคนนู หากจำนวนนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากพอ คือเฉลี่ยใน 1 ปี จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการต้องมีไม่ต่ำกว่า 15,000 คน โดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 150 คน
ทางอุทยานฯ ก็จะมีการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการ โดยจะมีการหารือเรื่องอัตราการจัดเก็บอีกครั้งว่า ความเหมาะสมจะจัดเก็บในอัตราเท่าใด เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่กันได้โดยไม่เดือดร้อน และไม่เป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ และหากว่า หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว สถานการณ์การท่องเที่ยวไม่ดีขึ้น
อุทยานฯ ก็ต้องผ่อนผันให้แก่ผู้ประกอบการออกไปอีก แต่ถ้าหากจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามที่กำหนด ก็จะจัดการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทันที ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี รวบรวบข้อมูล และข้อสรุปจากที่ประชุมทั้งหมด นำเสนอกรมอุทยานฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
ด้าน นายโสภณ อ่อนทอง รองประธานชมรมเรือแคนู จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพายเรือแคนูชมธรรมชาติป่าชายเลนได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวลดจำนวนลงไป จากที่มีนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการเรือแคนนูบริเวณถ้ำผีหัวโต ถ้ำลอด ตกวันละไม่น้อยกว่า 1,000 คนต่อวัน
เหลือเพียง 60 คนต่อวันเท่านั้น ผู้ประกอบการต้องประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทางอุทยานธารโบกขรณี ยอมผ่อนผันการจัดเก็บไปก่อน จนกว่าผู้ประกอบการจะมีรายได้เลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดจึงจะทำการจัดเก็บ นอกจากไม่ซ้ำเติมผู้ประกอบการ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบกิจการต่อไปได้
นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากรณีที่ผู้ประกอบการเรือแคนูบ้านบ่อท่อ ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้ยื่นข้อเสนอให้อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ชะลอการเก็บค่าธรรมเข้าชมพื้นที่อุทยานฯ คือ บริเวณถ้ำผีหัวโต และถ้ำลอด ม.6 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ในอัตรานักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2552
อุทยานฯ ก็ยืนยันที่จะดำเนินการจัดเก็บตามระเบียบ ทำให้สร้างความไม่พอใจให้ผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากมีการจัดเก็บจะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบในช่วงภาวะวิฤตเศรษฐกิจ ที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถตกลงกันได้
โดยทางผู้ประกอบการเรือแคนนู และทางอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา เพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทางอุทยานฯ ยอมที่จะชะลอการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป โดยมีเงื่อนไขว่า ช่วงระยะเวลา 6 เดือนหลังจากนี้
อุทยานฯ จะจัดเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการเรือแคนนู หากจำนวนนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากพอ คือเฉลี่ยใน 1 ปี จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการต้องมีไม่ต่ำกว่า 15,000 คน โดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 150 คน
ทางอุทยานฯ ก็จะมีการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการ โดยจะมีการหารือเรื่องอัตราการจัดเก็บอีกครั้งว่า ความเหมาะสมจะจัดเก็บในอัตราเท่าใด เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่กันได้โดยไม่เดือดร้อน และไม่เป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ และหากว่า หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว สถานการณ์การท่องเที่ยวไม่ดีขึ้น
อุทยานฯ ก็ต้องผ่อนผันให้แก่ผู้ประกอบการออกไปอีก แต่ถ้าหากจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามที่กำหนด ก็จะจัดการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทันที ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี รวบรวบข้อมูล และข้อสรุปจากที่ประชุมทั้งหมด นำเสนอกรมอุทยานฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
ด้าน นายโสภณ อ่อนทอง รองประธานชมรมเรือแคนู จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพายเรือแคนูชมธรรมชาติป่าชายเลนได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวลดจำนวนลงไป จากที่มีนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการเรือแคนนูบริเวณถ้ำผีหัวโต ถ้ำลอด ตกวันละไม่น้อยกว่า 1,000 คนต่อวัน
เหลือเพียง 60 คนต่อวันเท่านั้น ผู้ประกอบการต้องประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทางอุทยานธารโบกขรณี ยอมผ่อนผันการจัดเก็บไปก่อน จนกว่าผู้ประกอบการจะมีรายได้เลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดจึงจะทำการจัดเก็บ นอกจากไม่ซ้ำเติมผู้ประกอบการ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบกิจการต่อไปได้
