นครศรีธรรมราช - “เทพไท” เย้ยทีมทนายหน้าหอทักษิณไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมไทยแล้วพึ่งศาลฟ้องคนอื่นทำไม ย้ำทัศนคติอันตรายให้สัมภาษณ์ “เดอะไทมส์” อ้างสื่อถามนำ ถ้าจิตใจจงรักภักดีแล้วตอบเพื่ออะไร เชื่อ “นช.แม้ว” เลียนแบบ “ฮุนเซน” ชักศึกเข้าบ้าน เพื่อตัวเองขึ้นสู่อำนาจ
วันนี้ (15 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ไปเป็นปรึกษานายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ออกมาข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องผู้ที่กล่าวพาดพิงถึง พ.ต.ท.ทักษิณว่า น่าจะเป็นการแก้เกี้ยวทางการเมืองมากกว่าการหวังผลคดี ทนายกลุ่มนี้ทำหน้าที่เป็นตัวคุ้มกัน พ.ต.ท.ทักษิณมาโดยตลอด โดยใช้ข้อกฎหมายมาปิดปากคนที่จะออกมาเปิดโปงความจริงที่เป็นพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ
“ไม่เข้าใจว่าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทย แล้วเหตุใดจึงจะมาพึ่งกระบวนการยุติธรรมนี้ในการเอาผิดคนอื่น หรือเมื่อตัวเองเสียผลประโยชน์แล้วจึงกล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่าถูกแทรกแซง แต่เมื่อจะได้ประโยชน์จึงเอากระบวนการยุติธรรมมาเป็นเครื่องมือ พฤติกรรมนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด การข่มขู่ของทนายทีมนี้ไม่สามารถปิดปากคนที่จะเปิดเผยความจริงได้ เชื่อว่าหากมีการฟ้องก็พร้อมที่จะสู้คดีและเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมไทยให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายได้ สิ่งที่พูดเป็นข้อเท็จจริง พฤติการณ์จริงที่ทักษิณมีพฤติกรรมอย่างนี้ตามที่หลายฝ่ายออกมาให้ข้อเท็จจริง ความจริงนั้นเป็นสิ่งไม่ตาย คนที่พูดความจริงย่อมได้รับการคุ้มครองจากศาลยุติธรรม”
ต่อข้อถามมีความพยายามในการเปรียบเทียบการพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ เป็นการพูดเนื้อหาในกรณีเดียวกันที่สามารถพูดได้ในไทมส์ออนไลน์ นายเทพไทกล่าวว่า กรณีที่มีการพูดถึงไทมส์ออนไลน์ หรือจะกล่าวอ้างถึงใครก็ตามเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ ต้องดูที่เจตนาว่าคนที่พูดนั้นมีเจตนาอย่างไรการกล่าวอ้างถึง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มีการกล่าวอ้างถึงประเด็นใด แต่ข้อเท็จจริงคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เป็นราชนิกุล เชื้อพระวงศ์มีความจกรักภักดีมาโดยตลอดต่างกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีพฤติกรรมหมิ่นเหม่หลายครั้ง การพูดในไทมส์ออนไลน์ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพูดเช่นนี้ การพูดจาบจ้วงหลายครั้งปรากฏมาแล้วทั้งแจแปนไทม์ อัลญะซีเราะห์ ไฟแนนเชียลไทม์ และอีกหลายครั้ง กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ บริสุทธิ์ใจว่ามีความจงรักภักดีต้องถามว่า หลังจากที่ไทมส์ออนไลน์ตีแผ่แล้ว ทักษิณต้องกล่าวขอโทษ ต้องกล่าวขอพระราชทานอภัยโทษ นั่นเพราะรู้ว่าผิดแล้ว การที่จะอ้างว่าพลาดพลั้งนั้นเป็นข้ออ้างได้ในศาลรัฐธรรมนูญที่เคยอ้างว่า “บกพร่องโดยสุจริต” ในคดีซุกหุ้น ส่วนในกรณีจาบจ้วงนั้นไม่สามารถให้อภัยได้ จิตสำนึกของคนที่มีความจงรักภักดีต้อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ว่าจะถูกสื่อถามนำอย่างไร จิตใจที่จงรักภักดีจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่กล่าวถึงโดยอัตโนมัติ ทักษิณรู้ว่ามีการถามนำแล้วที่ตอบนั้นเพื่ออะไร
นายเทพไทกล่าวถึงสถานการณ์ต่อไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการแตกหักกับรัฐบาลและประเทศไทย ไม่เช่นนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมไปเปลืองตัวเดิมพันกับอนาคตของตัวเองที่ไปจับมือกับนายฮุนเซน จนได้ข้อกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศต่อชาติ ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดนั้นเป็นพฤติกรรมที่นำศึกนอกเข้ามาสมทบกับศึกใน ซึ่งเป็นพฤติกรรมเหมือนในอดีตที่ฮุนเซนเอาเวียดนามมาทำสงครามในกัมพูชาช่วยเขมรแดงแล้วทำให้ฮุนเซนเป็นนายกฯ เช่นเดียวกันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืมมือมากดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงให้ตนเองมีอำนาจอีกครั้ง
“ทั้งหมดเป็นทฤษฎีที่เชื่อมโยงเป็นทฤษฎีแบบโดมิโนที่เลียนแบบมาจากฮุนเซนที่นำศึกนอกเข้ามาเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรมและศักดิ์ศรีของประเทศ กับ 7 หมื่นล้านเป็นเงินที่ทักษิณต้องการและเดิมพันสูงเป็นตัวเงินที่จับต้องได้ แต่ยังมีคดีที่ ทักษิณต้องถูกดำเนินคดีอีกนับ 10 นอกจาก 7 หมื่นล้านเป็นเดิมพันหลักยังมีประกอบอีกหลายคดี ทักษิณต้องการเพียงเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อล้มคดีทั้งหมดได้” นายเทพไทกล่าว