“อัยการ” เล่นตาม “แม้ว” ชี้ถอนฟ้องได้-แต่รัฐบาลต้องสั่ง

“โฆษกอัยการสูงสุด” คล้อยตาม “ทักษิณ” ทวิตเตอร์อ้างอัยการสั่งถอนฟ้องคดีได้ หากฟ้องแล้วไม่เกิดประโยชน์ แจงแม้อัยการมีอำนาจ แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลด้วย ย้อนรอย สมัยรัฐบาลคึกฤทธิ์ ให้ถอนฟ้องคดีชาวบ้านยากจนรุกที่ป่า พร้อมยกเคสรัฐบาล “อานันท์ ปันยารชุน” ถอนฟ้องชาวเวียดนาม ล่องเรือหนีเข้าไทย

วันนี้ (9 ก.ย.) นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ ว่า อัยการมีอำนาจถอนฟ้องคดี หากเห็นว่าการฟ้องจะไม่เกิดประโยชน์ และช่วยทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ว่า ถือเป็นความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอำนาจการถอนฟ้อง แม้เป็นดุลพินิจของอัยการตามกฎหมาย แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลด้วยว่าจะเห็นสมควรให้อัยการถอนฟ้องคดีที่ไม่สมควรฟ้องหรือไม่ ส่วนข้อถามว่า ในความเห็นของอัยการสามารถถอนฟ้องได้หรือไม่ อัยการย้ำว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล

โดย นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ ยกตัวอย่างคดีในอดีต ว่า เคยมีคดีที่อัยการใช้ดุลพินิจถอนฟ้องจำเลย อาทิ คดีฆ่า น.ส.เชอรี่แอน ดันแคน หลังจากพบว่า มีการจับจำเลยผิดตัว และคดีเด็กขายของในห้างสรรพสินค้าโลตัส ขโมยซาลาเปาเหลือจากการขายกลับไปให้น้องกิน 1 ลูก แต่ถูกจับได้ และตำรวจส่งคดีมาให้อัยการสั่งฟ้องในยุคที่ นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ เป็นอัยการสูงสุด อัยการก็ใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้อง เพราะแม้เด็กกระทำผิด เพราะขโมยของจริง แต่ทำไปเพื่อให้น้องได้มีของกิน เพราะครอบครัวยากจน การฟ้องเด็กคนนี้ จึงไม่เกิดประโยชน์ อัยการสูงสุดจึงใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งไม่ฟ้อง

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า ส่วนคดีที่รัฐบาลออกนโยบายให้อัยการถอนฟ้องในอดีต มีตัวอย่างเกิดขึ้น ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เคยมีนโยบายให้ถอนฟ้องชาวบ้านกว่าร้อยคนทำผิดฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติทางภาคเหนือ ชาวบ้านทำไป เพราะไม่มีที่ทำกินต่อมาถูกดำเนินคดี ซึ่งอัยการสั่งฟ้อง เพราะบุกรุกผิดกฎหมายจริง แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เห็นว่า การฟ้องชาวบ้านซึ่งไร้ที่ทำกินไม่เกิดประโยชน์ เพราะชาวบ้านทำผิดโดยจำเป็น เนื่องจากยากจนและการดำเนินคดีไม่ใช่ทางแก้ปัญหา รัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ จึงมีนโยบายถอนฟ้อง และใช้แนวทางบริหารเข้าไปจัดการด้วยการหาที่ทำกินให้ใหม่แล้วให้ชาวบ้านออกจากสถานที่ที่บุกรุกเข้าไปอยู่อาศัย เรื่องนี้จึงจบลงด้วยความสงบสุข นอกจากนี้ สมัยนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี เคยมีนโยบายถอนฟ้องชาวเวียดนามจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองด้วยการลงเรือเข้ามาทางจังหวัดชลบุรี ขณะนั้นเรียกกันว่า คดีเรือมนุษย์ ช่วงนั้นรัฐบาลนายอานันท์ กำลังมีนโยบายเปิดประเทศ สร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเวียดนาม จึงมีนโยบายสั่งให้อัยการถอนฟ้องคดีชาวเวียดนามที่หลบหนีเข้าเมือง เพื่อไม่ให้กระทบสัมพันธไมตรี การถอนฟ้องจึงเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า

สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีคดีที่อยู่ในศาล ประกอบด้วย คดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเอง 2 คดี คดีแรก คือ คดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว (หวยบนดิน) โดยศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว เนื่องจากจำเลยหนีคดี ส่วนคดีที่สอง คือ คดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตรมูลค่า 1,440 ล้านบาท โดยศาลนัดพิพากษาวันที่ 21 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น.

ส่วนคดีความที่อัยการสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีด้วยกัน 4 คดี ประกอบด้วย

คดีอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ และได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 76,621,603,061.05 บาท

คดีที่สอง คือ คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท

คดีที่สาม ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก จำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาท ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 โดยศาลตัดสินลงโทษจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปี

และคดีสุดท้าย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรม 3 ปี และ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน 2 ปี ถูกฟ้องฐานจงใจเลี่ยงภาษีหุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) 546 ล้านบาท