ชุมพร-มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร ร่วมกับภาคเอก ศึกษาวิชาการเกษตร วิจัยปาล์มน้ำมันสายพันธุ์ใหม่ พัฒนาผลิตไบโอดีเซล สนองนโยบายรัฐบาล
วันนี้ (12 พ.ย.) รศ.ดร.เทพ พงษ์พานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการสหกิจศึกษาทางวิชาการเกษตร” ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กับบริษัท อาร์ แอนด์ ดี เกษตรพัฒนา จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาพันธุกรรม
รวมทั้ง การปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมันให้ได้ผลผลิต เป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ในอุตสาหกรรมไบโอดีเซล ซึ่งพันธุ์คอมแพค ทอร์นาโด สามารถให้ผลผลิตได้มากถึง 4–5 ตัน/ไร่ อีกทั้งยังเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันขึ้นอีก 26–28% เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก
รศ.ดร.เทพ พงษ์พานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน พืชพลังงานทดแทน เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยจัดทำเป็นยุทธศาสตร์การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมไบโอดีเซล เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ
โดยตั้งเป้าในปี 2555 จำนวน 8.5 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 3,100 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ 2.85 ล้านตันต่อปี เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันดิบ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จะช่วยประหยัดงบประมาณ 35,000 ล้านต่อปี
วันนี้ (12 พ.ย.) รศ.ดร.เทพ พงษ์พานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการสหกิจศึกษาทางวิชาการเกษตร” ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กับบริษัท อาร์ แอนด์ ดี เกษตรพัฒนา จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาพันธุกรรม
รวมทั้ง การปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมันให้ได้ผลผลิต เป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ในอุตสาหกรรมไบโอดีเซล ซึ่งพันธุ์คอมแพค ทอร์นาโด สามารถให้ผลผลิตได้มากถึง 4–5 ตัน/ไร่ อีกทั้งยังเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันขึ้นอีก 26–28% เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก
รศ.ดร.เทพ พงษ์พานิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน พืชพลังงานทดแทน เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยจัดทำเป็นยุทธศาสตร์การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมไบโอดีเซล เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ
โดยตั้งเป้าในปี 2555 จำนวน 8.5 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 3,100 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ 2.85 ล้านตันต่อปี เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันดิบ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จะช่วยประหยัดงบประมาณ 35,000 ล้านต่อปี