นครศรีธรรมราช – เกิดเหตุรถกระบะรอง ผจก.บริษัททัวร์ดัง “นครศรีราชาทัวร์” พลิกคว่ำชนอัดก๊อปปี้กับท่อซิเมนต์ระบายน้ำริมถนนพังยับเยินทั้งคัน มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 รายและบาดเจ็บอีก 5 ราย อีกรายกระบะสองแถว นครฯ-สิชล ของบริษัทสิชลพัฒนกิจ เกิดล้อหลังซ้ายขาดหลุดพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็ด 16 ราย
วันนี้ (10 พ.ย.) ร.ต.อ.ศิริธรรม นาควรรณ ร้อยเวร สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ใกล้วัดสระสี่มุม บ้านต้นบก ม.7 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 รายและบาดเจ็บอีก 5 ราย จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สิชล และจนท.หน่วยกู้ภัยใต้เต๊กตึ้งสิชล ไปที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้อนิสสัน สีแดง ทะเบียน บธ-779 นครศรีธรรมราช เสียหลักพลิกคว่ำชนอัดก๊อปปี้กับท่อซิเมนต์ระบายน้ำริมถนนพังยับเยินทั้งคัน
ตรงเบาะที่นั่งคนขับพบศพผู้ตายเป็นคนขับชื่อนายประยูร พันธุ์มุข อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ม.9 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเบาะด้านหน้าข้างคนขับพบศพผู้ตายศพที่ 2 ชื่อนางพวงเพ็ญ พันธุ์มุข อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ทั้งสองศพเป็นสามีภรรยากัน สภาพศพแขนขาหักคอหักกะโหลกศีรษะแตกตายคาที่ทั้งสองศพ
ส่วนผู้บาดเจ็บ 5 ราย ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งสิชลได้รีบลำเลียงคนเจ็บทั้ง 5 รายส่ง รพ.สิชลและส่งต่อ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ทราบชื่อ ดญ.หทัยรัตน์ พันธุ์มุข อายุ 9 ปี เป็นลูกสาวของผู้ตายทั้งสอง, ดญจุรีพร ขุนรักษ์ 11 ปี หลานสาวผู้ตาย, นางอนงค์ พันธุ์มุข ไม่ทราบอายุ หลานสาวผู้ตาย, น.ส.ฉัตรสุดา ขุนรักษ์ อายุ 20 ปี หลานสาวผู้ตายและ ด.ญ.อารีรักษ์ ขุนรักษ์ อายุ 13 ปี หลานสาวผู้ตาย ทั้ง 5 รายอาการสาหัสแพทย์กำลังช่วยเหลือชีวิตอย่างเต็มที่
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายประยูรผู้ตายมีตำแหน่งเป็น รอง ผจก.บริษัทศรีราชาทัวร์จำกัดสำนักงานสาขานครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ชื่อดังของประเทศที่วิ่งรถทัวร์รับส่งผู้โดยสารระหว่างนครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร และหลายจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนนางพวงเพ็ญภรรยาผู้ตายก็ทำหน้าที่ขายตั๋วรถทัวร์บริษัทรถทัวร์ดังกล่าว
ก่อนเกิดเหตุนายประยูรผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวกลับจากร่วมงานศพญาติที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนางพวงเพ็ญภรรยานั่งมาด้านหน้าและลูกหลานทั้ง 5 รายนั่งที่แค๊ปด้านหลัง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุทางตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะเกิดอาการหลับในทำให้รถเสียหลักตกลงไปในคูน้ำริมถนนไปชนอัดก๊อบปี้กับแท่งท่อซิเมนต์ระบายน้ำริมถนนอย่างจัง ทำให้นายประยูรตายพร้อมเมีย 2 ศพคาที่ ส่วนลูกหลานเจ็บระนาว 5 รายดังกล่าว
และในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ และ มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง ต่างเร่งนำรถมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุรถกระบะสองแถวสายนครฯ-สิชล ซึ่งมี นาย ประยูร อุปการดี อายุ 49 ปี เป็นคนขับ บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถ เพลาขาดจนเสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางเข้าหมู่บ้านสยามนครธานี ถนนอ้อมค่ายส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสารจำนวน 15 รายได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนทราบว่ารถกระบะสองแถว นครฯ-สิชล สีขาวคาดฟ้า ของบริษัทสิชลพัฒนกิจ หมายเลขข้างรถ 8420-2 9 ติดแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายเหลือง 10-2013 นครศรีธรรมราช สภาพรถฟังยับเยิน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดทาง เจ้าหน้ามูลนิธิได้ทยอยนำส่งโรงพยาบาล นครินทร์ และ โรงพยาบาลมหาราชซึ่งมีทั้งหมด 15 ราย ซึ่งมีทั้งนักเรียน และชาวบ้าน และเด็ก รวมทั้ง นาย ประยูร อุปการดี ผู้ขับรถกระบะสองแถวคันดังกล่าวด้วย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก ปวดตามแขนและขา แผลถลอกตามร่างกาย และอยู่ในอาการตกใจ ซึ่งโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจของของเจ้าหน้าที่พบว่า รถสองแถวคันดังกล่าวเดินทางมาจากอำเภอสิชล พร้อมผู้โดยสารเต็มคันรถ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ล้อหลังซ้ายได้ขาดหลุดแล้วรถก็เสียหลักพลิกคว่ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจบริเวณเพลาล้อหลังด้านซ้ายที่ขาด พบมีร่องรอยการสึกหรอของเพลาซึ่งขาดไปเกินครึ่ง และที่เหลือมีร่องรอยขาดสะบั้นสดๆ ร้อนๆ ประกอบกับการบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถและขับมาด้วนความเร็วทำให้เหล็กเพลาล้อซึ่งสึกกินแกนเพลาไปเกินครึ่งรับน้ำหนักไม่ไหวจนเพลาขาดจนเกิดอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งโชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต เป็นอุทาหรณ์เตือนใจของผู้ขับรถประจำทางต้องเช็คสภาพรถให้สมบูรณ์อยู่เสมอ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาต่อนายประยูร อุปการดี ผู้ขับรถกระบะสองแถว ในข้อหาขับรถประมาทส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมอายัดตัวไว้สอบสวนอีกครั้ง ซึ่งตำรวจยังประสานไปยังบริษัทสิชลพัฒนกิจเจ้าของรถให้ทราบแล้ว
สำหรับผู้บาดเจ็บ 16 คน ประกอบด้วย นายประยูร อุปการดี อายุ 49 ปี ที่อยู่ 28/3 ม.5 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช คนขับ, นายจิรวัฒน์ มีความสุข อายุ 21 ปี, น.ส.ศิราวรรณ เชิญไผ่ อายุ 16 ปี, นายอนุวัฒน์ ยางเดิม อายุ 18 ปี, นายธีรศักดิ์ สังข์เส้ง อายุ 45 ปี, น.ส.เบญจวรรณ ชิณวงศ์ อายุ 21 ปี, น.ส.สุดารัตน์ บุญเกิด อายุ 16 ปี, นางสถาพร จุลจงกล อายุ 34 ปี, ด.ช.สิริชัช คงทอง อายุ 4 เดือน, นายกฎตองพล พิมเสน อายุ 18 ปี, นายปนชัย รัตนศรี อายุ 62 ปี, นางกาญจณี ชิณวงศ์ อายุ 45 ปี, นางเอียด ใจห้าว อายุ 45 ปี, ด.ญ.สุรีสาย ใจห้าว อายุ 14 ปี, น.ส.ลักขณา ตั้งตอพิรัน อายุ 23 ปี และ นางสุปราณี ไม่ทราบนามสกุล
วันนี้ (10 พ.ย.) ร.ต.อ.ศิริธรรม นาควรรณ ร้อยเวร สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ใกล้วัดสระสี่มุม บ้านต้นบก ม.7 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 รายและบาดเจ็บอีก 5 ราย จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สิชล และจนท.หน่วยกู้ภัยใต้เต๊กตึ้งสิชล ไปที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้อนิสสัน สีแดง ทะเบียน บธ-779 นครศรีธรรมราช เสียหลักพลิกคว่ำชนอัดก๊อปปี้กับท่อซิเมนต์ระบายน้ำริมถนนพังยับเยินทั้งคัน
ตรงเบาะที่นั่งคนขับพบศพผู้ตายเป็นคนขับชื่อนายประยูร พันธุ์มุข อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ม.9 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเบาะด้านหน้าข้างคนขับพบศพผู้ตายศพที่ 2 ชื่อนางพวงเพ็ญ พันธุ์มุข อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ทั้งสองศพเป็นสามีภรรยากัน สภาพศพแขนขาหักคอหักกะโหลกศีรษะแตกตายคาที่ทั้งสองศพ
ส่วนผู้บาดเจ็บ 5 ราย ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งสิชลได้รีบลำเลียงคนเจ็บทั้ง 5 รายส่ง รพ.สิชลและส่งต่อ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ทราบชื่อ ดญ.หทัยรัตน์ พันธุ์มุข อายุ 9 ปี เป็นลูกสาวของผู้ตายทั้งสอง, ดญจุรีพร ขุนรักษ์ 11 ปี หลานสาวผู้ตาย, นางอนงค์ พันธุ์มุข ไม่ทราบอายุ หลานสาวผู้ตาย, น.ส.ฉัตรสุดา ขุนรักษ์ อายุ 20 ปี หลานสาวผู้ตายและ ด.ญ.อารีรักษ์ ขุนรักษ์ อายุ 13 ปี หลานสาวผู้ตาย ทั้ง 5 รายอาการสาหัสแพทย์กำลังช่วยเหลือชีวิตอย่างเต็มที่
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายประยูรผู้ตายมีตำแหน่งเป็น รอง ผจก.บริษัทศรีราชาทัวร์จำกัดสำนักงานสาขานครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ชื่อดังของประเทศที่วิ่งรถทัวร์รับส่งผู้โดยสารระหว่างนครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร และหลายจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนนางพวงเพ็ญภรรยาผู้ตายก็ทำหน้าที่ขายตั๋วรถทัวร์บริษัทรถทัวร์ดังกล่าว
ก่อนเกิดเหตุนายประยูรผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวกลับจากร่วมงานศพญาติที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนางพวงเพ็ญภรรยานั่งมาด้านหน้าและลูกหลานทั้ง 5 รายนั่งที่แค๊ปด้านหลัง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุทางตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะเกิดอาการหลับในทำให้รถเสียหลักตกลงไปในคูน้ำริมถนนไปชนอัดก๊อบปี้กับแท่งท่อซิเมนต์ระบายน้ำริมถนนอย่างจัง ทำให้นายประยูรตายพร้อมเมีย 2 ศพคาที่ ส่วนลูกหลานเจ็บระนาว 5 รายดังกล่าว
และในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ และ มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง ต่างเร่งนำรถมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุรถกระบะสองแถวสายนครฯ-สิชล ซึ่งมี นาย ประยูร อุปการดี อายุ 49 ปี เป็นคนขับ บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถ เพลาขาดจนเสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางเข้าหมู่บ้านสยามนครธานี ถนนอ้อมค่ายส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสารจำนวน 15 รายได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนทราบว่ารถกระบะสองแถว นครฯ-สิชล สีขาวคาดฟ้า ของบริษัทสิชลพัฒนกิจ หมายเลขข้างรถ 8420-2 9 ติดแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายเหลือง 10-2013 นครศรีธรรมราช สภาพรถฟังยับเยิน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดทาง เจ้าหน้ามูลนิธิได้ทยอยนำส่งโรงพยาบาล นครินทร์ และ โรงพยาบาลมหาราชซึ่งมีทั้งหมด 15 ราย ซึ่งมีทั้งนักเรียน และชาวบ้าน และเด็ก รวมทั้ง นาย ประยูร อุปการดี ผู้ขับรถกระบะสองแถวคันดังกล่าวด้วย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก ปวดตามแขนและขา แผลถลอกตามร่างกาย และอยู่ในอาการตกใจ ซึ่งโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจของของเจ้าหน้าที่พบว่า รถสองแถวคันดังกล่าวเดินทางมาจากอำเภอสิชล พร้อมผู้โดยสารเต็มคันรถ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ล้อหลังซ้ายได้ขาดหลุดแล้วรถก็เสียหลักพลิกคว่ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจบริเวณเพลาล้อหลังด้านซ้ายที่ขาด พบมีร่องรอยการสึกหรอของเพลาซึ่งขาดไปเกินครึ่ง และที่เหลือมีร่องรอยขาดสะบั้นสดๆ ร้อนๆ ประกอบกับการบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถและขับมาด้วนความเร็วทำให้เหล็กเพลาล้อซึ่งสึกกินแกนเพลาไปเกินครึ่งรับน้ำหนักไม่ไหวจนเพลาขาดจนเกิดอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งโชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต เป็นอุทาหรณ์เตือนใจของผู้ขับรถประจำทางต้องเช็คสภาพรถให้สมบูรณ์อยู่เสมอ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาต่อนายประยูร อุปการดี ผู้ขับรถกระบะสองแถว ในข้อหาขับรถประมาทส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมอายัดตัวไว้สอบสวนอีกครั้ง ซึ่งตำรวจยังประสานไปยังบริษัทสิชลพัฒนกิจเจ้าของรถให้ทราบแล้ว
สำหรับผู้บาดเจ็บ 16 คน ประกอบด้วย นายประยูร อุปการดี อายุ 49 ปี ที่อยู่ 28/3 ม.5 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช คนขับ, นายจิรวัฒน์ มีความสุข อายุ 21 ปี, น.ส.ศิราวรรณ เชิญไผ่ อายุ 16 ปี, นายอนุวัฒน์ ยางเดิม อายุ 18 ปี, นายธีรศักดิ์ สังข์เส้ง อายุ 45 ปี, น.ส.เบญจวรรณ ชิณวงศ์ อายุ 21 ปี, น.ส.สุดารัตน์ บุญเกิด อายุ 16 ปี, นางสถาพร จุลจงกล อายุ 34 ปี, ด.ช.สิริชัช คงทอง อายุ 4 เดือน, นายกฎตองพล พิมเสน อายุ 18 ปี, นายปนชัย รัตนศรี อายุ 62 ปี, นางกาญจณี ชิณวงศ์ อายุ 45 ปี, นางเอียด ใจห้าว อายุ 45 ปี, ด.ญ.สุรีสาย ใจห้าว อายุ 14 ปี, น.ส.ลักขณา ตั้งตอพิรัน อายุ 23 ปี และ นางสุปราณี ไม่ทราบนามสกุล
