ปัตตานี - ชาวบ้านผวาหนีน้ำอาศัยหลับนอนบนถนนจนเต็นท์ขาดแคลน ส่วนหนึ่งใช้ใต้สะพานนอนหลบแดด ในขณะที่โรงเรียนหลายแห่งสั่งปิดไม่มีกำหนดหลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ปัตตานี ยังคงวิกฤต ซึ่งต้องรับน้ำเหนือจากพื้นที่ จ.ยะลา ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 พ.ย.) ได้มีการแจ้งเตือนว่าเขื่อนปัตตานี ยังคงเปิดประตูกั้นน้ำทั้ง 7 บานเพื่อช่วยระบายน้ำจากพื้นที่ จ.ยะลา ได้ไหลลงสู่อ่าวไทย จึงเป็นเหตุทำให้น้ำหลากลงสู่แม่น้ำปัตตานี ที่กำลังเอ่อล้นตลิ่งอยู่แล้วไหลทะลักขยายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ 4 อำเภอใต้เขื่อน คือ อ.ยะรัง เพิ่มเป็น 6 ตำบล อ.แม่ลาน 2 ตำบล อ.หนองจิก 9 ตำบล โดยบ้านเรือนราษฎรที่อยู่หลังเขื่อนซึ่งระดับน้ำที่สูงอยู่แล้วก็จะสูงเพิ่มขึ้นอีก 40 ซม. ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยขณะนี้น้ำมีปริมาณจุดสูงสุดได้ผ่านพื้นที่ ตำบลยาบี อ.หนองจิก และได้ไหลเจิ่งนองเข้าเขตพื้นที่ อ.เมือง ตั้งแต่เมื่อคืนเพิ่มเป็น 10 ตำบล รวมไปถึงเขตเทศบาลเมืองด้วย ซึ่งประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ต้องขนสิ่งของออกมาอาศัยหลับนอนอยู่บนถนนสายหลักมากขึ้น จึงทำให้เต็นท์ที่ทาง อบต.ในแต่ละท้องที่เตรียมไว้ให้ไม่เพียงพอกับประชาชนที่ต้องการแล้ว ซึ่งบางรายต้องขนย้ายสิ่งของไปเก็บไว้ยังใต้สะพานสูงที่น้ำท่วมไม่ถึง เพื่อหลบแดดและหลับนอนไปจนกว่าทางหน่วยงานราชการจะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม
ในขณะที่โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ถูกน้ำท่วมบางได้หยุดการเรียนการสอนโดยไม่มีกำหนดแล้ว 10 โรง หลังระดับน้ำท่วมโรงเรียนเกือบ 1 เมตร และหากน้ำยังคงเพิ่มขึ้นคาดว่าจะปิดเพิ่มอีกหลายพื้นที่ ซึ่งก็มีเพียงครูเท่านั้นที่เดินทางมาเก็บเอกสารและอุปกรณ์การเรียน การสอน ป้องกันการเสียหาย โดยมีกำลังทหารนำเรือมาคอยดูแลพร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้
ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในขณะนี้ยังคง 8 อำเภอ ลดลงเหลือ 26 ตำบล 88 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 37 หลัง ราษฎรได้รับความเดือดร้อนเพิ่มเป็น 9,279 ครัวเรือน 27,027 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายเกือบ 1 หมื่นไร่