xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านปากพนังประท้วงตำรวจจับแพะคดีฆ่าคนตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านรวมพลังประท้วงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแพะคดีฆ่าคนตาย หลัง ตร.ปากพนังจับ อบต.คนดัง ด้านผู้การฯ รับเรื่องยันให้ความเป็นธรรม ส่งรองผู้การคุมคดี ส่วนผู้ต้องหาอีกคนเตรียมมอบตัวสู้คดี

วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่บริเวณสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้มีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใน ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 200 คน นำโดยนายสุรศักดิ์ จันทร์รอด อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บางจาก นายธัชนนท์ เงินนาค หรือผู้ใหญ่มล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บากจาก และนายสุเมธ บำรุงศิลป์ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางจาก เดินทางมารวมตัวกันประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จับกุมนายสุวรรณ จอมส่อง หรือ “อบต.ต้อย” อายุ 40 ปี อบต.หมู่ 4 ต.บางจาก ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยผู้ประท้วงอ้างว่านายสุวรรณ ผู้ต้องหา ไม่ได้กระทำผิดและตำรวจจับแพะ

จากนั้นกลุ่มผู้ประท้วงเดินออกจากสนามหน้าเมืองไปตามถนนราชดำเนิน โดยมีการชูป้ายข้อความโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพนัง ต่าง ๆ นานา เช่น ตำรวจปากพนังจับแพะ ตำรวจคือผู้พิฆาตสันติราษฎร์ โดยเฉพาะบรรดาลูก ๆ ของนายสุวรรณ ผู้ต้องหา จำนวน 5 คนถือป้ายข้อความว่า ตำรวจจับพ่อหนูทำไม่ ,พ่อหนูไม่ผิด , ขอความเป็นธรรมให้พ่อหนูด้วย เป็นต้น ท่ามกลางความสนใจของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน

โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้เดินไปรวมตัวกันบริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เพื่อขอพบ พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม ในขณะที่ พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อม พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมือง ได้จัดกำลังตำรวจมาคอยรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประท้วง

นายสุรศักดิ์ จันทร์รอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บางจาก แกนนำผู้ประท้วง เปิดเผยว่า กรณีคนร้าย 2 คนใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ยิงนายสมพิศ หรือวุฒิ นาคขวัญ อายุ 40 ปี เสียชีวิตบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านแสงวิมาน หมู่ 15 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 31 ต.ค. 2552 หลังจากนั้น 3 วันตำรวจได้นำหมายจับกุมนายสุวรรณ อบต.4 ในข้อหาร่วมกันฆ่านายสมพิศ ซึ่งในวันเวลาที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลา 16.30 น.ตนและนายสุวรรณพร้อมเพื่อนบ้านอีกหลายคนร่วมชมมวยที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ช่อง 7 หลังจากนั้นจึงนั่งดื่มเบียร์กันจนถึงเกือบเที่ยงคืน โดยอยู่ด้วยกันตลอด จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายสุวรรณ จะไปก่อเหตุยิงนายสุวรรณ ตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง

ในขณะที่นางสุภาณี จอมส่อง อายุ 38 ปี ภรรยาของนายสุวรรณ ผู้ต้องหา กล่าวว่า การจับกุมนายสุวรรณ สามีของตนแม้ตำรวจจะอ้างว่าจับตามหมายจับของศาลจังหวัดปากพนัง แต่ตนสงสัยในกระบวนการสอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับว่าโปร่งใสเป็นธรรมแค่ไหน ซึ่งหลังจากนายสมพิศ ถูกยิงตายนายสุวรรณ สามีของตนไม่ได้หลบหนีไปไหนเพราะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย

จนเมื่อวันที่ 30 พ.ย. หลังเกิดเหตุ 3 วันตำรวจก็นำหมายจับมาจับกุมตัวนายสุวรรณ สามีของตนไปสอบสวนที่ สภ.ปากพนัง โดยนายสุวรรณ สามีให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอยื่นประกันตัวแต่ตำรวจไม่ยอมให้ประกันตัว ก่อนจะนำตัวไปฝากขังตนและญาติ ๆ จึงขอประกันตัวต่อศาล แต่ตำรวจก็คัดค้านการประกันตัวในขณะนี้นายสุวรรณ อยู่ระหว่างการฝากขังที่เรือนจำปากพนัง ตนและลูก ๆ พร้อมด้วยชาวบ้านจึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายสุวรรณ และขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีนี้ด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ได้เชิญนางสุภาณี และลูก ๆ พร้อมตัวแทนชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งเข้าพบในห้องประชุม และรับหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการ โดย พล.ต.ต.สราวุธ กล่าวว่า จะดำเนินการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนตามความต้องการและจะมอบหมายให้ พ.ต.อ.เอิบ คงกล่ำ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ลงไปควบคุมการสอบสวนในคดีนี้อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา โดยขอให้ญาติของนายสุวรรณ ผู้ต้องหาและชาวบ้านมั่นใจได้เลยว่าหากนายสุวรรณ ไม่ได้กระทำผิด ตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน ตนจะสอบสวนสืบสวนอย่างละเอียด เพราะในขณะนี้ตนได้รับรายงานข้อมูลไม่ชอบมาพากลบางอย่างเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังยื่นหนังสือร้องเรียนและได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.สราวุธ ว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงพอใจจึงพากันแยกย้ายกลับไปในที่สุด

อย่างไรก็ตามตามแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่านายสมพิศ ผู้ตายมีประวัติไม่เรียบร้อย ก่อคดีเล็กเล็กขโมยน้อยจนเป็นที่รับรู้ของเพื่อนบ้าน ล่าสุดโกรธแค้นเพื่อนบ้านรายหนึ่งจึงนำเลื่อยไปตัดต้นส้มโอของเพื่อนบ้านจนเสียหายกว่า 5 ไร่ ก่อนหลบหนีไปอยู่ จ.กระบี่ เพิ่งกลับมาได้ 2 วันก็ถูกยิงตาย ประเด็นนี้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

ในขณะที่นายธัชนนท์ เงินนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บางจาก หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.ปากพนังมุ่งสอบสวนในประเด็นการทะเลาะวิวาทของเด็ก ๆ ที่แข่งขันฟุตซอล ”บางจากคัพ “เมื่อเดือนเมษายน 2551 โดยผู้ตายที่ดื่มเหล้าเมามายใช้มีดปลายแหลมวิ่งลงไปในสนามเพื่อเอาเรื่องกับเด็กนักกีฬา จึงถูกเด็ก ๆ รุมทำร้ายบาดเจ็บเล็กน้อย เรื่องที่เกิดขึ้นเคลียร์กันยุติไปนานแล้วไม่มีอะไรติดใจกันอีก

แต่เมื่อนายสมพิศ ถูกยิงตายตำรวจกลับนำเรื่องดังกล่าวมาปะติดปะต่อจนมีการจับกุมนายสุวรรณ และในคดีเดียวกันนี้ตำรวจยังเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดปากพนังออกหมายจับลูกบ้านของตนอีกคนหนึ่งด้วย ทั้งนายสุวรรณ และลูกบ้านของตนคือแพะ ดีๆ นี้เอง ความจริงหากตำรวจตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้รอบคอบจะพบชนวนการสังหารนายสมพิศ ที่แท้จริงได้ไม่ยาก ในส่วนลูกบ้านของตนที่โดนออกหมายจับด้วยนั้นตนจะนำเข้ามอบตัวกับผู้การฯ ในเร็ว ๆ นี้

กำลังโหลดความคิดเห็น