ชุมพร - เกิดคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดกระหน่ำเขื่อนท่าจอดเรือประมงพื้นบ้านที่อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ระทางยาวกว่า 150 เมตร พังเสียหายทั้งหมด ชาวประมงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่เรือประมงในพื้นที่กว่า 5,000 ลำ หยุดเดินเรือแล้ว เพื่อความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงชายฝั่งบ้านหินกบ หมู่ 6 ต.ชุมพร อ.ปะทิว จ.ชุมพร ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือที่ชาวประมงเรียกว่า “ลมว่าว” ได้พัดกระหน่ำทำให้เกิดคลื่นสูง 2–4 เมตร จนเขื่อนกันคลื่นลม ซึ่งเป็นที่จอดเทียบเรือประมงชายฝั่ง ก่อสร้างโดยงบประมาณ SML มีความยาวประมาณ 150 เมตร สูง 5 เมตร
เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ถูกคลื่นทะเลพัดกระหน่ำจนพังทลายทรุดลงไปใต้ทะเลจนหมด ตลอดทั้งแนวเขื่อน ทำให้เรือประมงขนาดเล็กที่ใช้เป็นที่ลมคลื่นลม ถูกคลื่นซัดเกยขึ้นไปอยู่บนชายหาดได้รับความเสียหายจำนวนหลายลำ เจ้าของเรือหลายลำต้องอพยพนำเรือเล่นไปหาที่จอดในที่ปลอดภัย
นายเชิดศักดิ์ ชำนาญ อายุ 50 ปี อาชีพทำเรือประมง และเจ้าของร้านอาหารทะเลทอง กล่าวว่า ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ทะเลเกิดคลื่นลมแรงคลื่นสูง 2–4 เมตร สำหรับปีนี้คลื่นลมแรงกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือ และร้านอาหารริมทะเล ถูกน้ำทะเลซัดเข้ามาถึง โดยเฉพาะเขื่อนกันแนวคลื่นลมซึ่งเป็นที่จอดเรือประมงชายฝั่งเกือบ 100 ลำ ที่มีความยาวกว่า 100 เมตร พังเสียหายตลอดทั้งแนว จนเรือประมงได้รับความเสียหาย และเดือดร้อนอย่างมาก จนต้องย้ายเรือหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ เรือประมงในพื้นที่ทั้งหมดจำนวนกว่า 5,000 ลำ ไม่สามารถออกทำประมงได้ ต้องกระจายกันหาที่จอดเรือตามท่าเรือต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะร้านอาหาร และผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเล ได้รับความเดือดร้อนกันจำนวนมาก เนื่องจากปีนี้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบอาชีพประมง และร้านอาหารอย่างมาก