ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สสจ.ภูเก็ตยังเพิ่มความเข้มเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ระบาดรอบ 2 ทุกโรงพยาบาลตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วย เผยตั้งแต่เดือน เม.ย 52 เป็นต้นมาภูเก็ตยังไม่พบผู้ป่วย พร้อมเตือนประชาชนระวังโรคที่มาในช่วงหน้าหนาว
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และโรคที่มาในช่วงหน้าหนาว ว่า สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 รอบ 2 นั้นในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ทั้งรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัวในการป้องกันตัวเองให้พ้นจากโรคดังกล่าว ซึ่งการรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่นั้นได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2 แม้ว่าตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมาจังหวัดภูเก็ตไม่พบผู้ป่วยเลยก็ตาม
ส่วนเรื่องของการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนั้น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตโรงพยาบาลทุกแห่งยังคงการตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยต่อไปจนกว่าจะพ้นช่วงหน้าหนาวเพื่อให้การรักษาโรคสามารถทำได้อย่างทันท่วงที และป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดของโรคขยายวงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นทางสาธารณสุขยังได้เรียกประชุมผู้ประกอบการสถานประกอบการต่างๆเพื่อทำความเข้าใจในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ในช่วงหน้าหนาวจะมีโรคติดต่อเกิดขึ้นหลายโรคเพราะฉะนั้นประชาชนในพื้นที่จะต้องระมัดระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาว ไม่ว่าจะเป็นโรคปวดบวม ไข้หวัด โรคหัด หัดเยอรมัน โรคอีสุกอีใส โรคอุจจาระร่วง
เพราะฉะนั้น ประชาชนควรจะดูแลรักษาสุขภาพร่ายกายของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง เนื่องจากเป็นสาเหตุของการทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ควรดูแลลูกหลานของท่านให้มีร่างกายที่อบอุนอยู่เสมอเพราะเด็กในช่วงวัยดังกล่าวมีภูมิต้านทานร่างกายที่ต่ำจะเป็นสาเหตุทำให้เด็กติดเชื้อจากโรคหัด ปอดบวม ได้ง่าย ในส่วนของหญิงที่มีครรภ์ 3 เดือนแรกควรระวังโรคหัดเยอรมัน เพราะเชื้อของไข้หวัดเยอรมันอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และโรคที่มาในช่วงหน้าหนาว ว่า สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 รอบ 2 นั้นในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ทั้งรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัวในการป้องกันตัวเองให้พ้นจากโรคดังกล่าว ซึ่งการรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่นั้นได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2 แม้ว่าตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมาจังหวัดภูเก็ตไม่พบผู้ป่วยเลยก็ตาม
ส่วนเรื่องของการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนั้น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตโรงพยาบาลทุกแห่งยังคงการตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยต่อไปจนกว่าจะพ้นช่วงหน้าหนาวเพื่อให้การรักษาโรคสามารถทำได้อย่างทันท่วงที และป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดของโรคขยายวงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นทางสาธารณสุขยังได้เรียกประชุมผู้ประกอบการสถานประกอบการต่างๆเพื่อทำความเข้าใจในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ในช่วงหน้าหนาวจะมีโรคติดต่อเกิดขึ้นหลายโรคเพราะฉะนั้นประชาชนในพื้นที่จะต้องระมัดระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาว ไม่ว่าจะเป็นโรคปวดบวม ไข้หวัด โรคหัด หัดเยอรมัน โรคอีสุกอีใส โรคอุจจาระร่วง
เพราะฉะนั้น ประชาชนควรจะดูแลรักษาสุขภาพร่ายกายของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง เนื่องจากเป็นสาเหตุของการทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ควรดูแลลูกหลานของท่านให้มีร่างกายที่อบอุนอยู่เสมอเพราะเด็กในช่วงวัยดังกล่าวมีภูมิต้านทานร่างกายที่ต่ำจะเป็นสาเหตุทำให้เด็กติดเชื้อจากโรคหัด ปอดบวม ได้ง่าย ในส่วนของหญิงที่มีครรภ์ 3 เดือนแรกควรระวังโรคหัดเยอรมัน เพราะเชื้อของไข้หวัดเยอรมันอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้
