นราธิวาส – ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสมอบเงินเยียวยาเหตุคาร์บอมบ์หน้าร้านเครื่องสำอางนพรัตน์ รอบ 2 วงเงินกว่า 4 ล้านบาท ด้านผู้ได้รับผลกระทบยืนยันไม่คิดย้ายหนีออกจากพื้นที่ หลังได้รับความช่วยเหลือแล้วเร่งซ่อมแซมร้านโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเปิดจำหน่ายสินค้าตามปกติต่อไป
ที่ร้านอาหารหน้าโรงแรมเมอร์ลิน นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายสมเกียรติ สุวรรณนิมิตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก พ.ตงอ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และพันโทสราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.ฉก.นธ.36 ร่วมกันมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบด้านทรัพย์สินแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์หน้าร้านเครื่องสำอางนพรัตน์ เมื่อวันที่ 6ต.ค.ที่ผ่านมา
ครั้งนี้ได้มอบเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบรวม 11 ราย เป็นจำนวนเงิน 4,527,785 บาท และหนึ่งในจำนวนนี้มี ผู้แทนของ MR.NG YEW CHAI นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียได้รับเงินช่วยเหลือจากความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ที่จอดอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เป็นจำนวนเงิน 160,825บาทด้วย
ทั้งนี้นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้านทรัพย์สินจากเหตุคาร์บอมบ์ใกล้สิ้นสุดแล้วหลังจากที่ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้ามาดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีเพียงร้านเครื่องสำอางค์นพรัตน์เท่านั้น ที่ขอรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีเอกสารอีกบางส่วนที่เกี่ยวกับความเสียหายของร้านค้ายังไม่สามารถยื่นได้ครบทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ยังได้กล่าวถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้พยายามเร่งดำเนินการแก้ปัญหาที่ติดขัดในเรื่องของสัญญาจ้าง และรายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้สามารถติดตั้งกล้องในพื้นที่โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามสำหรับย่านธุรกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
ล่าสุดทราบว่า กลุ่มผู้ประกอบการภาคธุรกิจได้ตื่นตัวในการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัยสถานประกอบการของตนเองไปเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อกับการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคงก็เชื่อว่า จะสามารถรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ได้อย่างเต็มระบบมากขึ้น
ด้านนางนพรัตน์ เด่นรัศมีเทพ เจ้าของร้านเครื่องสำอางนพรัตน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พอใจกับการช่วยเหลือของภาครัฐแล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องการให้เข้ามาติดตามรายละเอียดปลีกย่อยเพื่อให้สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงได้มากกว่านี้
ทั้งนี้ยังยืนยันไม่คิดย้ายหนีออกจากพื้นที่ และจะดำเนินธุรกิจที่ร้านเดิมต่อไป โดยหลังจากนี้จะเร่งซ่อมแซมร้านค้าเพื่อให้สามารถเปิดจำหน่ายสินค้าตามปกติต่อไป ส่วนร้านค้าอื่นๆ อาทิ ร้านยา ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าในย่านเดียวกันนี้ ส่วนใหญ่เริ่มเปิดให้บริการตามปกติไปแล้ว