นราธิวาส – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่นราธิวาส ประเมินสถานการณ์ความไม่สงบ ยืนยันเครื่องทีจี 200 ยังมีคุณภาพในการตรวจสอบวัตถุระเบิด แต่เหตุพลาดมาจาก 2 สาเหตุหลัก คือ ความตื่นเต้นของเจ้าหน้าที่ และความอ่อนล้าของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (9 ต.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก โดยคณะได้เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบจากเจ้าหน้าที่ที่ห้องประชุม สภ.สุไหงโก-ลกจ.นราธิวาส โดยมี นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายสมเกียรติ สุวรรณนิมิตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พ.ท.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 และเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
โดยในที่ประชุม พ.ต.ท.มานิตย์ แย้มซ้าย รองผู้กำกับการ สภ.สุไหงโก-ลก เป็นผู้สรุปสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 ที่ผ่านมา ทั้ง 2 เหตุการณ์ คือ เหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงและขว้างระเบิดใส่ร้านอาหารตามสั่ง รวมถึงเหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมเมอร์ลิน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งจากทั้ง 2 เหตุการณ์ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย คือ ส.ต.ท.วัชรพงษ์ อำไพฤทธิ์ และชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย คือ นางปรียานุช โชติไพบูลย์พันธุ์ และ ด.ช.ภีมพศ อภิบาลธนากุล บุตรชาย และ น.ส.โนรุงซันนะห์ แวนาแว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งในที่ประชุม พ.ต.ท.มานิตย์ แย้มซ้าย ได้รายงานสรุปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เหตุการณ์นั้น มีการประเมินแล้วคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งมีการวางแผนมาเป็นอย่างดีเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นตั้งแต่การก่อเหตุในร้านอาหารและคาร์บอมบ์
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับกลุ่มคนร้ายที่ยิงถล่มร้านอาหารแล้ว 4 คน คือ 1.นายมูฮำหมัดสกรี ไซซิง ซึ่งทำหน้าที่เป็นมือปืน 2.นายอิลยัส นิมะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ 3.นายโรสลาน กูบารู ทำหน้าที่ขว้างระเบิดใส่ร้าน 4.นายมูฮำหมัดรอวี อาแวและนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน ซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ
เมื่อคณะรัฐมนตรีช่วยว่าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปแล้วเสร็จ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ด้านหน้าโรงแรมเมอร์ลิน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อพบปะพูดคุยกับเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษกับเจ้าของร้าน และยอมรับว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เป็นความผิดพลาดในการใช้เครื่องมือของเจ้าหน้าที่ที่ผู้ใช้มีอาการตื่นเต้นจนอุณหภูมิในร่างกายไม่สื่อกับเครื่องมือจีที 200 จนผู้ใช้ไม่สามารถตรวจสอบพบระเบิดที่คนร้ายได้บรรทุกใส่ไว้ในรถยนต์เคันดังกล่าวซึ่งความผิดพลาดในครั้งนี้ ได้มีการปรับยุทธวิธีใหม่สำหรับผู้ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ซึ่ง 1 เครื่องจะมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ใช้ 2 คน หากคนใดคนหนึ่งไม่มีความพร้อม ก็ให้อีกคนหนึ่งใช้แทน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีก
จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและเข้าเคารพศพผู้เสยชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 6 ต.ค.พร้อมทั้งมอบเงนช่วยเหลือเยียวยาให้กับครอบครัวด้วย
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่ากรกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการทำงานของเครื่องที่จี 200 ด้วยว่า เครื่องยังคงมีประสิทธิภาพเต็มที่ในการรวจสอบหาวัตถุระเบิด แต่ที่เกิดปัญหาขึ้นในครั้งนี้เกิดจาก 2 ประเด็นหลัก คือ ความตื่นเต้นของเจ้าหน้าที่ และความอ่อนล้าของเจ้าหน้าที่เนื่องจากทำงานกับเครื่องที่จี 200 เพียงคนเดียว ซึ่งหลังจากนี้ ได้หามาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว ส่วนครั้งนี้ที่เกิดขึ้นต้องถือเป็นบทเรียนสำหรับเจ้าหน้าที่
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกลุ่มประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก -ลก ด้วยว่า กลุ่มดังกล่าวถือเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งมาก หลังจากนี้หน่วยงานภาครัฐจะเร่งเข้าไปส่งเสริมให้ความรู้ด้านการตรวจสอบและสังเกตวัตถุต้องสงสัย เพื่อเป็นกำลังให้กับเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง